[ใหม่] Hi-Balanz Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศ อาหารเสริมบำรุงผิวใส

566 สัปดาห์ ที่แล้ว - กรุงเทพมหานคร - คนดู 244

490 ฿

  • Hi-Balanz Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศ อาหารเสริมบำรุงผิวใส รูปที่ 2
  • Hi-Balanz Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศ อาหารเสริมบำรุงผิวใส รูปที่ 4
  • Hi-Balanz Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศ อาหารเสริมบำรุงผิวใส รูปที่ 5
  • Hi-Balanz Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศ อาหารเสริมบำรุงผิวใส รูปที่ 6
  • Hi-Balanz Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศ อาหารเสริมบำรุงผิวใส รูปที่ 7
รายละเอียด
Hi-Balanz Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศ บำรุงผิวใส

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไลโคพีน สารสกัดจากมะเขือเทศเข้มข้น 30 แคปซูล

Hi-Balanz Lycopene 60 mg. Full Dose (1 แคปซูล เท่ากับการรับประทานมะเขือเทศสุก 15-20 ลูก)

รับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังอาหารเย็น

อย.เลขที่ 10-1-04741-1-0744

ราคา 650 บาท

พิเศษ 490 บาท

Lycopene ไลโคพีน สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศ

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ทรงพลังที่สกัดได้จากมะเขือเทศ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวสดใสมีชีวิตชีวา ช่วยในการป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระสร้างแผงที่ผนังเซลล์ที่อาจกลายเป็นเนื้อร้ายในภายหลังได้ ผิวสุขภาพดี อมชมพู ลดการเกิดฝ้า กระ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ลดการเผาไหม้ของผิวจากแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น ลดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้านทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นดูมีเลือดฝาด

ในบรรดาแคโรทีนอยด์ทั้งหมด ไลโคพีน จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ทรงพลังที่สุด ไลโคพีน มีฤทธิ์ที่ดีกว่าแบต้าแคโรทีน และ แอลฟาโทโคฟีรอล ถึง 2 และ 10 เท่า ตามลำดับ ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคพีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริมสารสกัดจากมะเขือเทศ

Lycopene ไลโคพีน เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และช่วยในการป้องกันการเสื่อสภาพของเซลล์ในร่างกาย สารไลโคพีนนี้มีประสิทธิภาพเหนือว่าสารเบต้าเคโรทีน และสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์อื่นๆ ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และยังพบอีกว่าสารไลโคพีนนั้นสามารถช่วยลดโอกาสความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในต่อมลูกหมากได้มากถึง 21% และลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม สามารถป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระทำปฏิกิริยาสร้างแผงที่ผนังเซลล์ที่อาจกลายเป็นเนื้อร้ายในภายหลัง

ประโยชน์ของไลโคพีน Lycopene

• บุคคลที่รับประทานมะเขือเทศบด 40 กรัมต่อวัน ได้รับสารไลโคปีน 16 กรัมต่อวัน จะมีอัตราของอาการ เผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์ลดลง 40% หลัง จากรับประทานมะเขือเทศติดต่อกันนาน 10 สัปดาห์

• ไลโคปีนช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก

• ผู้เข้ารับการทดสอบที่รับประทานมะเขือเทศในปริมาณสูงที่สุด 10 ครั้งต่อสัปดาห์ มีอัตราเสี่ยง ในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากต่ำกว่าเมื่อเปรียบ เทียบกับผู้ที่รับประทานน้อยกว่า 1.5 ครั้งต่อสัปดาห์

• การรับประทานมะเขือเทศในอัตราสูงจะช่วยลดอัตราการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากทุกประเภท ได้ถึง 35% และลดความรุนแรงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก 53%

• สารสกัดจากมะเขือเทศที่ประกอบด้วยไลโคปีน 30 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยลดการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในคนไข้ภายหลังจากการรักษา โรคมาแล้ว 3 สัปดาห์
• ไลโคปีนอาจจะมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก โดยจะลดการเกิดเนื้องอกและยับยั้งการพัฒนา วงจรชีวิตของเซลล์ในช่วงต้นของการเกิดเซลล์มะเร็ง (ระยะ G1) ไลโคปีนอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

• บุคคลที่มีสารสกัดพลาสมาไลโคปีนที่สูงที่สุดจะมี เปอร์เซ็นต์ของการเกิดการหนาตัวของหลอดเลือด IMT (intima-mediated thickness) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดระยะเริ่มต้นได้ต่ำสุด ถึง 90% ดังนั้นการได้รับไลโคปีนในปริมาณที่สูงอาจช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด

• การรับประทานไลโคปีนสามารถลดอัตราเสี่ยงของการ เป็นกล้ามเนื้อหัวใจอุดตันต่ำกว่า 60% สำหรับบุคคลที่มีสารสกัดไลโคปีนสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีสารสกัดไลโคปีนต่ำสุดไลโคปีน อาจจะลดความรุนแรงของการเผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์

ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม โดยไลโคปีนจะไปกระจายอยู่ทั่วไปในเนื่อเยื่อบริเวณที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่พบการสะสมของไลโคปีนมากที่ต่อมหมวกไต ลูกอัณฑะ และตับ จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed-lycopene) เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ

นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีนที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและ ผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง 2.5 เท่า ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับไลโคปีน จึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน

วิธีการส่งสินค้า

ส่งสินค้า EMS ฟรีทั่วประเทศ

มีบริการ Delivery ส่งสินค้าถึงบ้านฟรี (เฉพาะเขตกรุงเทพฯ ยอดสั่งซื้อ 1,000 บาทขึ้นไป)

วิธีการชำระเงิน

• โอนเงินเข้าบัญชี บริษัท ไฮบาลานซ์ จำกัด ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนตะนาว เลขบัญชี 111 4242 116 ออมทรัพย์
• สามารถชำระค่าสินค้าผ่านเคาน์เตอร์ เซอร์วิส ที่ 7-11 ทุกสาขา (ทางบริษัทฯ จะส่งรหัสชำระค่าสินค้าไปที่เบอร์มือถือของท่าน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ 0-2222-0700 หรือ 086-332-0700)
• รับชำระผ่านบัตรเครดิต Visa, Master Card ได้

สั่งซื้อสินค้าและสอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่

0-2222-0700 หรือ 086-332-0700
บริษัท ไฮบาลานซ์ จำกัด
22 ซอยนาวา ถนนตะนาว เสาชิงช้า พระนคร กรุงเทพฯ 10200

เว็บไซต์ http://www.hibalanz.com

ข้อมูลสินค้า http://www.hibalanz.com/productshow.php?id_prd=31