[ใหม่] ท้าวกุเวรเนื้อว่านไพลดำและผงอิทธิเจหลวงปู่สรวงปี32

432 สัปดาห์ ที่แล้ว - กรุงเทพมหานคร - เขตตลิ่งชัน - คนดู 12

1,000 ฿

  • ท้าวกุเวรเนื้อว่านไพลดำและผงอิทธิเจหลวงปู่สรวงปี32 รูปที่ 1
รายละเอียด
ท้าวกุเวรเนื้อว่านไพลดำและผงอิทธิเจหลวงปู่สรวงปี32ท้าวกุเวรเนื้อว่านไพลดำและผงอิทธิเจหลวงปู่สรวงปี32 เสกขลังแดนเขมร พระตะบอง ปู่จารแก้วเจียร แกะพิมพ์แบบโบราณ
เนื้อสีดำคือว่านไพลดำ เนื้อสีขาวครีมคือผงอิทธิเจ ขนาดเท่าน้ำตาลแว่นเมืองเพชรบุรี ผสมด้วยเพชรหน้าทั่งผง เพชรพญานาคผง เพชรน้ำค้างผง สะเก็ดดาวผง ผงเหล็กไหลสมิง เส้นเกษา ในรูปท้าวกุเวรนั่งบัลลังค์ มีคุณทางมหาอำนาจ คงกระพัน แคล้วคลาด เป็นที่ยำเกรงของภูตผีปีศาจ กันลมเพลมพัด ไพลดำมีคุณสมบัติเหมือนเหล็กไหลทุกประการ ให้โชคให้ลากก็ได้ ส่วนเนื้ออิทธิเจ เป็นมหาเมตตา โชคลาภ หน้าที่การงาน พยุงดวง ทำน้ำมนต์ไล่เสนียดจัญไร
เปิดให้บูชา องค์ละ 1000 บาท
สนใจติดต่อ
ธนวัฒน์ โทรศัพท์มือถือ 092-264-4368

พระเครื่องหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินตำนานพระเกจิและภาคอภินิหาร
วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง สนใจไปที่
www.หลวงปู่สรวง.net
หรือ ติดต่อ ธนวัฒ์ปู่สรวง โทร 09226443648

หลวงปู่สรวงเปนใครกันแน่
หลวงปู่สรวง พระอริยะสงฆ์ผู้พิสดารที่อยู่เหนือกาลเวลา
ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่าครับ?
หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านบอกว่ารู้จัก และรู้จักมานานแล้ว เมื่อ คราวที่หลวงปู่ฤทธิ์ ทำบุญวางศิลาฤกษ์ สร้างศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ที่วัดชลประทานราชดำริ หลวงปู่สรวงท่านก็มา
เวลาท่านมาท่านก็มาของท่านเองไม่รู้ว่าท่านมาเมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็เมื่อตอนที่เห็นท่าน เวลาท่านจะไปท่านก็ไปท่านเดินออกไปทางป่าด้านโน้น อยู่ด้านหน้าศาลาเป็นป่ากว้างมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย ท่านเดินตรงไปแต่พอมองออกไปจะเห็นฝูงสัตว์เดินตามท่านเป็นพรวนแล้วสักพัก ท่านก็หายไป
หลวงปู่ฤทธิ์ ท่านยังได้พูดว่า เรื่อง หลวงปู่สรวงพูดไปแล้วก็เหมือนกับนิยาย เป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ท่านก็มีตัวตนจริง เมื่อหลายสิบปีก่อน ได้พบเห็นท่านอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็เห็นท่านเหมือนเดิม ตัวของหลวงพ่อเองนี่ซิแก่ลงไปทุกวันทุกปีนี่ก็อายุ82 แล้วแต่หลวงปู่สรวงท่านก็อยู่ของท่านอย่างนั้น ส่วนเรื่องอายุของ หลวงปู่สรวงนั้น หลวงปู่ฤทธิ์ท่านก็บอกว่า ท่านไม่รู้เหมือนกันว่าเท่าไหร่?
สถานที่จำวัด เมื่อตอนที่พบ หลวงปู่สรวงก็คือ กระท่อมเฝ้านากลางท้องทุ่งริมถนนหมู่บ้านละลม-สะเดา ชายแดนด้านเขมร เป็นกระท่อมยกพื้นสูงมุงหลังคาด้วยไม้กระดานเก่าๆ กันลมกันฝนไม่ค่อยได้
ในวันนั้นหลวงปู่สรวงท่านนอนอยู่ในกระท่อม มีชายชราผมขาวนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ คอยบีบนวดให้หลวงปู่สรวง นอกกระท่อมมีชายหญิงชาวบ้าน 4-5 คนนั่งคุยกันอยู่เป็นชาวบ้านย่านนั้น ข้างฝากระท่อมมีว่าวจุฬาตัวใหญ่เหน็บข้างฝาอยู่ 1 ตัว มีเตาเล็กๆ แลและหม้อหุ้งข้าวเก่าๆวางอยู่ 1 ชุด และก็มีถังใส่น้ำขุ่นๆเข้าใจว่าจะตักมาจากหนองน้ำกลางทุ่งที่อยู่ใกล้ ๆ หน้ากระท่อมหลวงปู่สรวงมีแคร่ไม้ยาว สำหรับนั่ง พวกเราทุกคนเข้าไปกราบท่าน ท่านก็ลุกขึ้นมาแต่ท่านไม่พูดจาอะไร ในปากของท่าน ก็เคี้ยวใบพลูสดอยู่ตลอดเวลา มีพวกผมคนหนึ่งถามท่านว่า หลวงปู่อายุเท่าไรแล้ว ท่านก็ตอบเป็นภาษาส่วย ซึ่งผมเองและเพื่อนที่ไปจากกรุงเทพ ก็ฟังไม่เข้าใจ แต่พรรคพวกที่ศรีสะเกษแปลว่าให้ฟังว่า เรื่องของอดีตลืมไปหมดแล้ว ชื่ออะไรก็จำไม่ได้ เขาเรียกว่าปู่สรวง ก็ปู่สรวง
ชื่อเสียงมันก็ไม่ใช่ตัวของเราจะเรียกยังไงก็ได้ ถ้ามาคิดกันอีกแง่นึงก็เหมือนกับว่า ท่านได้สอนธรรมะชั้นสูงให้กับพวกเราให้รู้ว่า ให้มีแต่ปัจจุบันเพราะสิ่งทั้งหลายมันผ่านไปแล้ว มันเป็นเรื่อง สมมุติทั้งนั้น