[มือสอง] สหการประมูล เผยปริมาณรถยนต์มือสองประมูลเพิ่มขึ้นดันกำไรพุ่ง 119 ล้านบาท

24 สัปดาห์ ที่แล้ว - กรุงเทพมหานคร - เขตวังทองหลาง - คนดู 19
  • สหการประมูล เผยปริมาณรถยนต์มือสองประมูลเพิ่มขึ้นดันกำไรพุ่ง 119 ล้านบาท รูปที่ 1
รายละเอียด
สหการประมูลรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 67 เติบโต 11.5% เผยปริมาณรถยนต์มือสองประมูลเพิ่มขึ้นดันกำไรพุ่ง 119 ล้านบาท

บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT รายงานผลการดำเนินธุรกิจประจำไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 342.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.44 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณรถเข้าสู่ลานประมูลและปริมาณรถจบประมูลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 119.76 ล้านบาท

นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ (AUCT) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 342.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.44 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการประมูลในไตรมาส 1 ปี 2567 เท่ากับ 280.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40.76 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.0 ของรายได้จากการให้บริการ และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2566 จำนวน 8.05 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.0 ของรายได้จากการให้บริการ เนื่องจากปริมาณรถเข้าสู่ลานประมูลและปริมาณรถจบประมูลเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราการจบประมูลที่ชะลอตัวในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 และปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2567 ส่งผลทำให้มีรถจบประมูลเพิ่มขึ้น

ส่วนรายได้ค่าขนย้ายและบริการเสริมในไตรมาส 1 ปี 2567 เท่ากับ 62.02 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.32 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.9 ของรายได้จากการให้บริการ เนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการจัดงานประมูลให้แก่หน่วยงานภาครัฐเพิ่มเข้ามา และเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2566 จำนวน 5.42 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.6 ของรายได้จากการให้บริการ ตามรายได้จากการประมูลที่เพิ่มขึ้น

สำหรับต้นทุนบริการไตรมาส 1 ปี 2567 เท่ากับ 148.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.91 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากต้นทุนการประมูลที่ผันแปรตามจำนวนรถจบประมูล เช่น ต้นทุนค่าขนย้าย และค่าใช้จ่ายในการประมูล ซึ่งผันแปรตามปริมาณรถจบประมูล แต่ลดลง 19.66 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.7 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566

ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นไตรมาส 1 ปี 2567 เท่ากับ 194.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 33.12 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการบริการ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการให้บริการและบริหาร รวมทั้งต้นทุนทางการเงิน ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 119.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.07 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 26.60 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 28.6 เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566

นายสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 สาเหตุเกิดจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และกังวลว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช้า ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้น โดยยอดขายรถยนต์ใหม่ไตรมาส 1/2567 ลดลงร้อยละ 24.7 เมื่อเทียบไตรมาส 1/2566 และลดลงร้อยละ 13.4 เมื่อเทียบไตรมาส 4/2566 สอดคล้องกับการชะลอตัวของยอดสินเชื่อรถยนต์ใหม่ในไตรมาส 1/2567 ที่สะท้อนมาจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น สินเชื่อส่วนบุคคลที่ขยายตัวต่อเนื่อง การชะลอตัวของเศรษฐกิจและความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายจากภาครัฐ ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ปริมาณรถยังคงไหลเข้าสู่ธุรกิจประมูลในปี 2567 ส่วนแผนของบริษัทฯ ในการเพิ่มพื้นที่คลังสินค้าและกระจายการประมูลสู่ภูมิภาคเพื่อหมุนเวียนสินค้าให้ขายได้เร็วขึ้นนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี อัตราการจบประมูลและระดับราคาจบประมูลเฉลี่ย มีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนในการเพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทิศทางการบริหารจัดการประมูลยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย