[ใหม่] ฮอร์โมนเร่งน้ำยางพารา โดยแก๊สเอทธิลีน โดยไม่เป็นอันตรายกับต้นยาง
396 สัปดาห์ ที่แล้ว
- กรุงเทพมหานคร - คนดู 1,997
รายละเอียด
คุณสมบัติพิเศษของฮอร์โมนเอทิลีน
เอทิลีนเป็นฮอร์โมนพืชชนิดเดียวที่อยู่ในรูปแก๊สและมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมากไม่มีสี มีกลิ่นเล็กน้อยจัดเป็นสารอินทรีย์ประเภทไฮโดรคาร์บอนที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารที่มีคาร์บอนและเกิดจากการสร้างขึ้นเองของพืชและมีอยู่ในต้นยางแต่ไม่เพียงพอกับความต้องการ
จากการพิสูจน์พบว่าสารเอทิลีนเป็นฮอร์โมนที่มีในพืช สามารถกระตุ้นการสุกของผลไม้หลายชนิด โดยพืชชนิดต่างๆสามารถผลิตเอทิลีนได้เองแต่ไม่เพียงพอกับความต้องการโดยสร้างจากกระบวนการเมทาบอลิซึ่ม (metabolism) ในส่วนของลำต้น ใบ ดอก ผล เมล็ดและรากเป็นต้น นอกจากนี้เอทิลีนจะช่วยเร่งให้เกิดน้ำยางในต้นยางพาราส่งผลให้น้ำยางไหลเร็วและนานขึ้นจึงมีความสำคัญกับต้นยางพาราเป็นอย่างมาก
เมื่อมีการกรีดยางพาราทุกครั้ง เท่ากับต้นยางมีแผลสารเอทิลีนจะออกฤทธิ์คือ กรดchloroethylphosphonic ซึ่งมีผลในการเร่งการไหลของน้ำยางทำให้ได้รับผลผลิตน้ำยางเพิ่มขึ้น เพราะฮอร์โมนเอทิลีนไปเร่งการทำงานของเอนไซม์ ATPase ทำให้โปรตอนเกิดการเหนี่ยว และเข้าสู่เซลล์การสังเคราะห์ยางจะช่วยเร่งการเคลื่อนย้ายน้ำตาลซูโครสซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์น้ำยาง
นอกจากนี้ยังทำให้สภาพภายในเซลล์สังเคราะห์ยางมีความเป็นกรดด่างมากขึ้นและเร่งการเคลื่อนย้ายของโมเลกุลน้ำในเซลล์ข้างเคียงเข้าสู่เซลล์สังเคราะห์ยางทำให้น้ำยางไหลนานกว่าปกตินั่นเอง
เอทธิลีนช่วยเพิ่มน้ำยางได้อย่างไร
แก๊สเอทธิลีนจะทำให้เม็ดยางในน้ำยางจับตัวช้าลงน้ำยาจึงสามารถไหลออกจากต้นยางได้นานกว่าปกติ จึงเป็นการเพิ่มผลผลิตของน้ำยางอย่างหนึ่งอีกทั้งถ้ามีการดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดกรีดใหม่จะช่วยยืดอายุการกรีดยางได้มากกว่า 50 ปี
การเพิ่มเอทธิลีนให้กับต้นยางดีอย่างไร
ระบบการเพิ่มฮอร์โมนเอทธิลีนคือการเพิ่มระดับฮอร์โมนที่ขาดหายไปในโครงสร้างต้นยาง(ปกติต้นยางสามารสร้างได้เองแต่ไม่เพียงพอ)ให้เกิดความสมดุลขึ้นทำให้ระบบต่าง ๆ ของต้นยางสมบูรณ์ขึ้นส่งผลให้
- การทำงานของรากแข็งแรงขึ้น
- การลำเลียงอาหารสมบูรณ์ขึ้น
- การสังเคราะห์แสงสมบูรณ์ขึ้น
- การผลิตน้ำยางปริมาณมากขึ้น
- การขยายตัวของท่อน้ำยางมากขึ้น
- ระบบภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ จะดีขึ้น
เทคโนโลยีการเพิ่มฮออร์โมน คือการเพิ่มระดับฮอร์โมนที่ขาดหายไปในโครงสร้างต้นยางให้เกิดความสมดุลขึ้นทำให้ระบบต่างๆของต้นยางสมบูรณ์ขึ้นโดยมีวิธีการง่าย ๆ คือ
1.ใช้พู่กันจุ่มฮอร์โมนเอทธิลีนทาตรงรอยกรีดมีดล่าสุด
2.เดือนหนึ่งทาได้ 2ครั้ง ในวันที่หยุดกรีด ถ้าทาแก๊สเอทธิลีนบ่อยก็จะให้น้ำยางเย๊อะขึ้น ควรต้องบำรุงต้นยางมากขึ้นเช่นกัน
3.ใช้ได้กับยางอายุ 12 ปีขึ้นไป ถ้ายางอายุต่ำกว่านี้ให้เจือจางก่อนใช้
4.ใน 1ชุดใช้ทาได้ 1,700 ครั้ง
วิธีการกรีดเพื่อให้ได้ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
1. กรีดยางหน้าสั้น 4 นิ้วคือการกรีดยางโดยใช้พื้นที่ของเปลือกยางกว้างเพียง 4 นิ้วทำให้ประหยัดพื้นที่หน้ายาง และยืดอายุการใช้งานของต้นยางได้นานขึ้นโดยปกติเราจะกรีดเปลือกยางกว้าง 8-12 นิ้วทำให้สูญเสียพื้นที่ของเปลือกยางโดยเปล่าประโยชน์ทำให้อายุการใช้งานของต้นยางสั้นลง
2. กรีดยางจากด้านล่างขึ้นด้านบนเนื่องจากโดยปกติท่อน้ำยางจะไหลเวียนรอบต้นยางในลักษณะจากด้านบนขวาลงมาด้านซ้ายล่างการกรีดจากด้านล่างขึ้นด้านบนจะกรีดขึ้นไปรับท่อน้ำยางใหม่ตลอดทำให้ได้ผลผลิตมากกว่า
3. กรีดยางหน้าเฉียง 45 องศาจะทำให้พื้นที่การกรีดตัดท่อน้ำยางใหม่มาทกี่สุดและทำให้การไหลของน้ำยางลงสู่ถ้วยรองรับได้สะดวก ไม่หกตามหน้ายาง
4. กรีด1 วันเว้น 2 วัน เป็นระยะการกรีดที่เหมาะสมที่สุด เพราะเทคโนโลยีการเพิ่มฮออร์โมนจะให้ผลผลิตน้ำยางในปริมาณมาก การกรีด 1 วัน เว้น 2 วัน เพื่อให้ท่อน้ำยางได้พักมีเวลาในการดูดน้ำ แร่ธาตุเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสงผลิตเป็นน้ำยาง จึงทำให้ต้นยางสมบูรณ์ตลอดเวลาและมีข้อดีคือ ทำให้ไม่เกิดโรคหน้ายางตายนึ่งซึ่งส่วนมากมีสาเหตุจากการกรีดยางมากเกินไปโดยไม่ได้พักหน้ายาง
ฮอร์โมนเอทธิลีนเพิ่มน้ำยางได้กว่า50-70% ใช้งานง่ายและไม่เป็นอันตรายกับต้นยางแน่นอน กับราคาสุดค้ม เพียง 600 บาทเท่านั้น
สอบถามเพิ่มเติม 088-544-2200 ประมาณ www.link2hand.com
เอทิลีนเป็นฮอร์โมนพืชชนิดเดียวที่อยู่ในรูปแก๊สและมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างมากไม่มีสี มีกลิ่นเล็กน้อยจัดเป็นสารอินทรีย์ประเภทไฮโดรคาร์บอนที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารที่มีคาร์บอนและเกิดจากการสร้างขึ้นเองของพืชและมีอยู่ในต้นยางแต่ไม่เพียงพอกับความต้องการ
จากการพิสูจน์พบว่าสารเอทิลีนเป็นฮอร์โมนที่มีในพืช สามารถกระตุ้นการสุกของผลไม้หลายชนิด โดยพืชชนิดต่างๆสามารถผลิตเอทิลีนได้เองแต่ไม่เพียงพอกับความต้องการโดยสร้างจากกระบวนการเมทาบอลิซึ่ม (metabolism) ในส่วนของลำต้น ใบ ดอก ผล เมล็ดและรากเป็นต้น นอกจากนี้เอทิลีนจะช่วยเร่งให้เกิดน้ำยางในต้นยางพาราส่งผลให้น้ำยางไหลเร็วและนานขึ้นจึงมีความสำคัญกับต้นยางพาราเป็นอย่างมาก
เมื่อมีการกรีดยางพาราทุกครั้ง เท่ากับต้นยางมีแผลสารเอทิลีนจะออกฤทธิ์คือ กรดchloroethylphosphonic ซึ่งมีผลในการเร่งการไหลของน้ำยางทำให้ได้รับผลผลิตน้ำยางเพิ่มขึ้น เพราะฮอร์โมนเอทิลีนไปเร่งการทำงานของเอนไซม์ ATPase ทำให้โปรตอนเกิดการเหนี่ยว และเข้าสู่เซลล์การสังเคราะห์ยางจะช่วยเร่งการเคลื่อนย้ายน้ำตาลซูโครสซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์น้ำยาง
นอกจากนี้ยังทำให้สภาพภายในเซลล์สังเคราะห์ยางมีความเป็นกรดด่างมากขึ้นและเร่งการเคลื่อนย้ายของโมเลกุลน้ำในเซลล์ข้างเคียงเข้าสู่เซลล์สังเคราะห์ยางทำให้น้ำยางไหลนานกว่าปกตินั่นเอง
เอทธิลีนช่วยเพิ่มน้ำยางได้อย่างไร
แก๊สเอทธิลีนจะทำให้เม็ดยางในน้ำยางจับตัวช้าลงน้ำยาจึงสามารถไหลออกจากต้นยางได้นานกว่าปกติ จึงเป็นการเพิ่มผลผลิตของน้ำยางอย่างหนึ่งอีกทั้งถ้ามีการดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มต้นเปิดกรีดใหม่จะช่วยยืดอายุการกรีดยางได้มากกว่า 50 ปี
การเพิ่มเอทธิลีนให้กับต้นยางดีอย่างไร
ระบบการเพิ่มฮอร์โมนเอทธิลีนคือการเพิ่มระดับฮอร์โมนที่ขาดหายไปในโครงสร้างต้นยาง(ปกติต้นยางสามารสร้างได้เองแต่ไม่เพียงพอ)ให้เกิดความสมดุลขึ้นทำให้ระบบต่าง ๆ ของต้นยางสมบูรณ์ขึ้นส่งผลให้
- การทำงานของรากแข็งแรงขึ้น
- การลำเลียงอาหารสมบูรณ์ขึ้น
- การสังเคราะห์แสงสมบูรณ์ขึ้น
- การผลิตน้ำยางปริมาณมากขึ้น
- การขยายตัวของท่อน้ำยางมากขึ้น
- ระบบภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ จะดีขึ้น
เทคโนโลยีการเพิ่มฮออร์โมน คือการเพิ่มระดับฮอร์โมนที่ขาดหายไปในโครงสร้างต้นยางให้เกิดความสมดุลขึ้นทำให้ระบบต่างๆของต้นยางสมบูรณ์ขึ้นโดยมีวิธีการง่าย ๆ คือ
1.ใช้พู่กันจุ่มฮอร์โมนเอทธิลีนทาตรงรอยกรีดมีดล่าสุด
2.เดือนหนึ่งทาได้ 2ครั้ง ในวันที่หยุดกรีด ถ้าทาแก๊สเอทธิลีนบ่อยก็จะให้น้ำยางเย๊อะขึ้น ควรต้องบำรุงต้นยางมากขึ้นเช่นกัน
3.ใช้ได้กับยางอายุ 12 ปีขึ้นไป ถ้ายางอายุต่ำกว่านี้ให้เจือจางก่อนใช้
4.ใน 1ชุดใช้ทาได้ 1,700 ครั้ง
วิธีการกรีดเพื่อให้ได้ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
1. กรีดยางหน้าสั้น 4 นิ้วคือการกรีดยางโดยใช้พื้นที่ของเปลือกยางกว้างเพียง 4 นิ้วทำให้ประหยัดพื้นที่หน้ายาง และยืดอายุการใช้งานของต้นยางได้นานขึ้นโดยปกติเราจะกรีดเปลือกยางกว้าง 8-12 นิ้วทำให้สูญเสียพื้นที่ของเปลือกยางโดยเปล่าประโยชน์ทำให้อายุการใช้งานของต้นยางสั้นลง
2. กรีดยางจากด้านล่างขึ้นด้านบนเนื่องจากโดยปกติท่อน้ำยางจะไหลเวียนรอบต้นยางในลักษณะจากด้านบนขวาลงมาด้านซ้ายล่างการกรีดจากด้านล่างขึ้นด้านบนจะกรีดขึ้นไปรับท่อน้ำยางใหม่ตลอดทำให้ได้ผลผลิตมากกว่า
3. กรีดยางหน้าเฉียง 45 องศาจะทำให้พื้นที่การกรีดตัดท่อน้ำยางใหม่มาทกี่สุดและทำให้การไหลของน้ำยางลงสู่ถ้วยรองรับได้สะดวก ไม่หกตามหน้ายาง
4. กรีด1 วันเว้น 2 วัน เป็นระยะการกรีดที่เหมาะสมที่สุด เพราะเทคโนโลยีการเพิ่มฮออร์โมนจะให้ผลผลิตน้ำยางในปริมาณมาก การกรีด 1 วัน เว้น 2 วัน เพื่อให้ท่อน้ำยางได้พักมีเวลาในการดูดน้ำ แร่ธาตุเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสงผลิตเป็นน้ำยาง จึงทำให้ต้นยางสมบูรณ์ตลอดเวลาและมีข้อดีคือ ทำให้ไม่เกิดโรคหน้ายางตายนึ่งซึ่งส่วนมากมีสาเหตุจากการกรีดยางมากเกินไปโดยไม่ได้พักหน้ายาง
ฮอร์โมนเอทธิลีนเพิ่มน้ำยางได้กว่า50-70% ใช้งานง่ายและไม่เป็นอันตรายกับต้นยางแน่นอน กับราคาสุดค้ม เพียง 600 บาทเท่านั้น
สอบถามเพิ่มเติม 088-544-2200 ประมาณ www.link2hand.com