[ใหม่] โรคภูมิแพ้ หอบหืด สามารถป้องกันได้ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ เห็นผล 100 %
748 สัปดาห์ ที่แล้ว
- ระยอง - คนดู 205
450 ฿
รายละเอียด
สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น Mite Fear Spray แก้โรคภูมิแพ้ หอบหืด โดย สวทช.(สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) จากงานวิจัยเกี่ยวกับ สมุนไพร ควบคุม ไรฝุ่น ของ ดร.อำมร อินทร์สังข์ โดยการสนับสนุนของโครงการ BRT สู่การถ่ายทอดนวัตกรรมไปยังภาคเอกชน “ Mite Fear “ จึงเป็นผลิตภัณฑ์สเปรย์ สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น จากฝีมือคนไทย 100% ทำไมเราต้องกำจัดไรฝุ่นให้สิ้นซาก ไรผุ่นหรือไรฝุ่นในบ้าน (House Dust Mite) เป็นปัญหาที่สำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหากับมนุษย์ คือการก่อให้เกืดโรคภูมิแพ้ ซึ่งเป็นภาวะภูมิไวเกิน(Hypersensitivity)ที่ร่างกายแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมที่เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ (allergen) โรคภูมิแพ้ที่สำคัญและพบบ่อยได้แก่ โรคแพ้อากาศ โรคหอบหืด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจาก สารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบ เชื้อรา ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ และสาเหตุหลักการไรฝุ่นอาการที่แสดงออกมา ได้แก่ เยื่อจมูกอักเสบ ผิวหนังอักเสบและหอบหืด มีรายงานว่าคนไทยป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ที่มีสาเหตุมาจากไรฝุ่น ประมาณ 10 ล้านคน ไรผุ่นมีหลายชนิดที่สำคัญ ได้แก่ Dematophagoides pteronyssimus (Trouessart) และ Blomia tropicalis Bronsvijk 30% ของคนทั่วไป “แพ้ไรฝุ่น” “ไรฝุ่น” เป็นสาเหตุสำคัญของการก่อ โรคภูมิแพ้ ในระบบทางเดินหายใจ มากที่สุดในประเทศไทย (65% - 85%) ผู้ป่วย โรคภูมิแพ้ ที่เกิดจาก “ไรฝุ่น” มีถึง 10 ล้านคนในประเทศไทย (ปี 2549) โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นปีละ 10% “ไรฝุ่น” เป็นแมงขนาดเล็กมาก และมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ยาก (0.3 mm หรือ 300 um – ไรฝุ่น D.P.) “ไรฝุ่น” ชอบอาศัยอยู่ตาม เตียงนอน หมอน ผ้าห่ม พรม และตามเฟอร์นิเจอร์ ที่บรรจุด้วยเส้นใยต่างๆ “ไรฝุ่น” ดำรงชีวิตได้โดยการกินเศษขี้ไคล ขี้รังแค สะเก็ดผิวหนังเป็นอาหาร เศษผิวหนัง 1 กรัม สามารถเลี้ยงไรฝุ่นได้ 1,000,000 ตัว นานถึง 1 สัปดาห์ การสูดดม มูลไรฝุ่นเข้าไปในหลอดลมและปอด จะทำให้เกิดอาการน้ำมูก น้ำตาไหล ไอจาม โพรงจมูกอักเสบ และอาจส่งผลรุนแรง โดยเฉพาะอาการหอบหืดอย่างรุนแรง หรือหลอดลมตีบตัน ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ประสิทธืภาพของสเปรย์ สมุนไพรกำจัดไรผุ่น Mite fear 1. ด้วยส่วนผสมในสเปรย์ที่มาจากธรรมชาติทั้งหมด ทำให้ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้ 2. ส่วนผสมสมุนไพรที่มีความสามารถในการควบคุม และฆ่า ไรฝุ่น ได้สูงถึง 100% 3. มีกลิ่นหอมจาก น้ำมันยูคาลิปตัส ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดอาการของ โรคภูมิแพ้ 4. น้ำมันหอมระเหยกานพลูมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียได้ ซึ่งจะช่วยลดสาเหตุการเกืดโรคภูมืแพ้ 5. สามารถ กำจัดไรฝุ่น ตาย 100% แม้จะอยู่ใต้ที่นอน หรือตามซอกหลืบ คือ การรมโดยใช้ผ้าห่มผืนหนา หรือ พลาสติกคลุมไว้ 6. หลังจากฉีดพ่น Mite Fear น้ำยาสมุนไพรจะซึมลึกลงไป กำจัดไรฝุ่น ที่แอบอยู่ใต้ที่นอน รับรองประสิทธิภาพจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ยืนยันผล ฆ่าไรฝุ่น ตายได้ 100% 7. สินค้าได้ผล 100 % เนื่องจากเป็นงานวิจัยและได้จด สิทธิบัตรเลขที่คำขอ 0801005026 และ 0801005027 ของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ผลงานวิจัยจาก โครงการ BRT รายละเอียดสินค้า ชื่อผลิตภัณฑ์ MiteFear Mite Fear สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น 100 % วิธีใช้ สำหรับที่นอน : ฉีดไมท์เฟียร์ด้วยการรมให้ทั่วแล้วใช้ผ้าห่มหนาๆหรือพลาสติกคลุมไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมงโดยเดือนแรกฉีด 2 ครั้ง อาทิตย์เว้นอาทิตย์แล้วฉีดซ้ำทุก 1-2 เดือน สำหรับหมอน ผ้าห่ม พรม ผ้าม่าน เสื่อ โชฟา และตุ๊กตา :ฉีดไมท์เฟียร์สัมผัสโดยตรง โดยในช่วงเดือนแรกฉีด 2 ครั้ง อาทิตย์เว้นอาทิตย์ แล้วฉีดซ้ำทุกๆ 1-2 เดือน ปริมาณสุทธิ 250 ml. ราคา 450 ค่าจัดส่ง....50 บาท EMSทั่วประเทศ (ได้รับสินค้าภายใน 2-3 วันทำการ) วิธีการสั่งซื้อ กรุณา ส่งชื่อ ที่อยู่จัดส่งสินค้า เบอร์โทรศัพท์ และจำนวน ที่ต้องการ สาเหตุของโรคภูมิแพ้ หอบหืด เกิดจาก กรรมพันธุ์ และสิ่งแวดล้อม โดยพบว่า ถ้าบิดาหรือมารดาเป็น โรคภูมิแพ้ จะทำให้บุตรมีโอกาสเป็น โรคภูมิแพ้ ประมาณร้อยละ 30-50 แต่ถ้าทั้งบิดาและมารดาเป็น โรคภูมิแพ้ จะมีผลให้บุตรมีโอกาสเป็น โรคภูมิแพ้ มากขึ้นถึงร้อยละ 50 – 70 ในขณะที่เด็กที่มาจากครอบครัว ที่ไม่มีประวัติ โรคภูมิแพ้ เลย มีโอกาสเป็น โรคภูมิแพ้ เพียงร้อยละ 10 เนื่องจากในปัจจุบัน ยังไม่สามารถแก้ไขปัจจัยทางกรรมพันธุ์ได้ การควบคุมสิ่งแวดล้อม และการเลี้ยงลูกด้วยนมมารดา ตลอดจนการรับประทานอาหารที่เหมาะสม จะช่วยลดโอกาสการเกิด โรคภูมิแพ้ ในบุตรได้ นอกจากนี้ สาเหตุที่สำคัญที่สุด คือ กว่า 80 % ของผู้ที่ เป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด เกิดจากการแพ้ ไรฝุ่น ที่สะสม อยู่บนที่นอน หมอน เฟอร์นิเจอร์ และ เบาะรถยนต์ **หากไม่ทำการ รักษา ผู้ป่วยทีมีอาการรุนแรงอาจเป็นอันตราย ถึงแก่ชีวิต** ความสำคัญของการป้องกันโรคภูมิแพ้ อุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้จากการสำรวจทั่วโลก และการสำรวจในประเทศไทยเอง พบว่า เพิ่มขึ้น 3 – 4 เท่า ภายในระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ประเทศไทย มีอุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้โดยเฉลี่ยดังนี้ คือ โรคจมูกอักเสบจาก ภูมิแพ้ ร้อยละ 23-30, โรคหลอดลมอักเสบจาก ภูมิแพ้ หรือโรคหืด ร้อยละ 10-15, โรคผื่นผิวหนังอักเสบจาก ภูมิแพ้ ร้อยละ 15 และโรคแพ้อาหาร ร้อยละ 5 โดยอุบัติการณ์ในเด็ก จะสูงกว่าในผู้ใหญ่ โรคภูมิแพ้ นั้น ถ้าไม่ได้รับการรักษา จะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแย่กว่าคนปกติ เช่น ไม่สามารถนอนหลับได้ตามปกติ, เรียนและทำงานได้ไม่เต็มที่ และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ไซนัสอักเสบ, ริดสีดวงจมูก, หูชั้นกลางอักเสบ, นอนกรน, ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, ผิวหนังติดเชื้อ กล่าวโดยสรุป หากผู้ป่วยเริ่มมีอาการ หรือ มีปัจจัยเสี่ยงควรรีบ แก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุโดยเร็วที่สุดโดยพิจารณาจาก ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ และมีความน่าเชื่อถือ เป็นอันดับแรก ทำไมการรับประทานอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสม จึงป้องกัน โรคภูมิแพ้ ได้ เนื่องจาก โรคภูมิแพ้ ส่วนใหญ่ สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม และมีการศึกษาที่แสดงว่า สิ่งแวดล้อมและอาหาร เป็นปัจจัยส่งเสริมที่สำคัญของการเกิด โรคภูมิแพ้ ดังนั้น การกำจัดและหลีกเลี่ยง สารก่อภูมิแพ้ และสารระคายเคืองต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ ตั้งแต่แรกในเด็ก ที่เกิดในครอบครัวที่เป็น โรคภูมิแพ้ (ซึ่งเป็นเด็กที่มีความเสี่ยงสูง) และการให้เด็กดื่มนมมารดา จะสามารถป้องกันไม่ให้เด็กเหล่านี้เกิด โรคภูมิแพ้ขึ้นได้ ผู้ป่วยที่เป็น โรคภูมิแพ้ มักมี โรคภูมิแพ้ ร่วมกันหลายชนิด เช่นเด็กที่เป็นผื่นแพ้ผิวหนัง อาจพบมีการแพ้อาหารร่วมด้วย ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม จะสามารถลดอัตราการเกิดของการแพ้อาหารได้ การดื่มนมมารดาหรือนมสูตรพิเศษ (extensively hydrolyzed formula หรือ partially hydrolyzed formula) ซึ่งเป็นนมที่มีการสลายโปรตีน ที่ทำให้เกิดการแพ้ จะช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิด โรคภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้ การดื่มนมที่ผสมจุลินทรีย์สุขภาพ (probiotic bacteria) เช่น แลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรียม ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย มีการสร้างภูมิคุ้มกัน และลดอัตราการเกิดผื่นแพ้ผิวหนังได้ วิธีรักษาโรคภูมิแพ้ และการป้องกัน กำจัดไรฝุ่น 1. ทิ้งเครื่องนอน พรม เฟอร์นิเจอร์ที่ภายในทำจากวัสดุเส้นใยหรือนุ่นที่มีอายุการใช้งานหลายปี พบว่าที่นอนที่ทำจากนุ่น จะพบไรฝุ่นมากที่สุด รองลงมาคือ ที่นอนใยสังเคราะห์ เสื่อและที่นอนใยมะพร้าว อายุการใช้งานของที่นอนมากขึ้นก็จะพบปริมาณของไรฝุ่นมากขึ้นตามลำดับ 2. ใช้ผ้าที่มีเส้นใยสานกันแน่น พลาสติก หรือเส้นใย vinyl และ nylon หรือเคลือบด้วยสารป้องกันไรฝุ่น 3. การดูดฝุ่น สามารถเคลื่อนย้ายตัวไรฝุ่นออกจากที่นอน หรือ พรมได้น้อยกว่า 10 % 4. การซักเครื่องนอนเป็นประจำด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิอย่างน้อย 55๐C สามารถฆ่าตัวไรฝุ่นและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ออกกกจากเครื่องนอนได้ ส่วนการซักด้วยน้ำเย็นหรือการซักผ้าตามปกตินั้น แม้จะไม่สามารถฆ่าไรฝุ่นได้ แต่ลดสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. การใช้สารเคมีป้องกันกำจัดไรฝุ่น ที่นิยมใช้กันคือ benzyl benzoate, Acarosan โดยมักฉีดพ่นลงบนพรมพื้นห้อง และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ แต่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้อาศัย 6. การใช้สารสกัดจากสมุนไพร ป้องกันและกำจัดไรฝุ่น ซึ่งในปัจจุบันได้มีการวิจัยพัฒนา โดยพบว่าน้ำมันหอมระเหยการพลู และอบเชยสามารถกำจัดไรฝุ่นได้ 100% ชมรายการ สกู๊ปข่าว 7 สี สารคดีล่าสุด สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น ออกอากาศ 15 มิ.ย. 2552 http://www.ch7.com/news/news_scoop7see_detail.aspx?c=5&p=403&d=32882 | |