[ใหม่] คาวตองแม็กซ์

637 สัปดาห์ ที่แล้ว - พิษณุโลก - คนดู 359

1,200 ฿

  • คาวตองแม็กซ์ รูปที่ 1
รายละเอียด
สนใจสั่งซื้อได้ที่ 0869268055
หรือ kongkuls@gmail.com
พบ สมุนไพรไทย "คาวตอง" สุดเจ๋งมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษา การติดเชื้อ ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ เตรียมศึกษาเชิงลึก เพื่อพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

เรื่อง ราวการค้นพบสมุนไพรไทย มีสรรพคุณวิเศษในการยับยั้งเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำมาพัฒนาเป็นยารักษาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และมะเร็ง รวมถึงโรคเอดส์ได้นั้น ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่โรงแรมสยามซิตี ดร.ศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวภายในการประชุมระดมความคิดเห็นเรื่อง "การใช้นวัตกรรมเพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009" ว่า สนช. มีนโยบายในการสนับสนุนภาคเอกชนในการวิจัย และพัฒนาพืชสมุนไพร เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ ล่าสุดได้มีการค้นพบสมุนไพรพื้นบ้านที่เรียกว่า "คาวตอง" หรือ "ภูคาว" ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน พบมากทางภาคเหนือของประเทศไทย

ลักษณะ "คาวตอง" เป็น พืชล้มลุก และมีใบคล้ายใบพลู กลิ่นค่อนข้างแรงเหมือนคาวปลา บางครั้งนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหาร แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะมีกลิ่นแรง ไม่หอมเหมือนใบโหระพา หรือใบกะเพรา ที่ผ่านมานักวิจัยต่างชาติได้ศึกษาสารสกัดของคาวตองพบว่า มีคุณสมบัติต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้ดี อีกทั้ง ยังมีความเป็นไปได้ในการยับยั้งเชื้อมะเร็ง และมีแนวโน้มที่จะต้าน ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ ซึ่ง ต้องมีข้อมูลทางวิชาการมารองรับ ก่อนจะนำไปพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อไวรัสต่อไป คาดว่าใช้เวลาการวิจัย และพัฒนาสกัดมาเป็นยารักษาโรคดังกล่าวได้อีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า

ขณะ ที่ทั่วโลกยังหวาดผวากับการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดจากเชื้อ A/ H 1 N 1 เนื่องจากเชื้อหวัดนี้ยังคร่าชีวิตพลเมืองของนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทำให้สถิติยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลก เพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยล่าสุด (1 มิถุนายน) ไทยพบผู้ติดเชื้อแล้วประมาณ 4 คน ซึ่งทางการไทยได้วิงวอนให้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ หากมีอาการป่วย ควรไปให้แพทย์ตรวจอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเชื้อโรคระบาดในประเทศไทย

             "ผัก คาวตองหรือผักพลูคาว" เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทย รักษาไข้หวัดนก -ไข้หวัดหมู หรือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 มีคุณสมบัติห้ามเอนไซน์ "Neuraminidase" ทำงานทำให้ไวรัสแบ่งตัวออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อไม่ได้

             "ผักคาวตองหรือผักพลูคาว" เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้มานาน เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย มีประโยชน์ในด้านการรักษาโรคใช้ในการลดไข้ ขจัดสารพิษ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังพบว่าสารมารถสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ป่วย "เอชไอวี"ได้อีกด้วย

           คุณสมบัติสารพัดประโยชน์ของคาวตองที่กำลังเป็นที่ต้องการของคนไทยขณะนี้คือ สามารถรักษา "ไข้หวัดหมู"ได้ ผักคาวตองมีสารซึ่งสามารถทำลายเซลล์มะเร็งในหลอดทดลอง ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเซลล์เพาะเลี้ยง ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้หลอดเลือดขยายตัว
           ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ อดีตอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์ การแพทย์ เปิดเผยว่า น้ำมันหอมระเหยในคาวตอง มีคุณสมบัติห้ามการทำงานของเอนไซม์ Neuraminidase ตรงเยื่อหุ้มไวรัส (Influenza) ทำให้ไวรัสไม่สามารถแบ่งตัวออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อได้
             สำหรับยาแผนปัจจุบัน Oseltamivir (Tamiflu) รักษาไข้หวัดนก (Avian Influenza) หรือ ไข้หวัดหมู (Swine Influenza) ปัจจุบันเรียกใหม่ว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 มีคุณสมบัติห้ามเอนไซน์ Neuraminidase ทำงาน ทำให้ไวรัสแบ่งตัวออกมาจากเซลล์ที่ติดเชื้อไม่ได้
          ศาสตราจารย์ ดร. นพ. สมศักดิ์ วรคามิน สรุปว่า สมุนไพรคาวตองของไทยซึ่งมีประสิทธิภาพคล้ายคลึงกันจึงควรช่วยป้องกัน รักษา โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้เช่นกัน (สรุปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552)
          ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน และคณะได้ศึกษาผลสัมฤทธิ์ของสมุนไพรคาวตอง สูตรทองเนื้องามของผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องในจังหวัดเชียงราย เมื่อปี 2551 ปรากฏว่า ผู้บริโภคสมุนไพรคาวตองสูตรทองเนื้องามร่วมกับยาต้านไวรัส มีคุณภาพชีวิตและภูมิคุ้มกันดีขึ้นกว่าใช้ยาต้านไวรัสเพียงอย่างเดียว
           อนึ่งผักคาวตองเป็นผักพื้นบ้านของไทยทางภาคเหนือ ซึ่งได้มีการบริโภคมาหลายร้อยปี จึงปลอดภัยในการบริโภคคุณภาพมาตรฐานของการผลิต
            ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สมศักดิ์ วรคามิน ผู้ซึ่งเขียนหนังสือตำราสมุนไพร King of Herb เห็นคุณค่าด้านเภสัชวิทยา และด้านสาธารณสุขของสมุนไพรคาวตอง หรือพลูคาว จึงได้ร่วมก่อตั้งและเป็นประธานกรรมการมูลนิธิคาวตอง ทองเนื้องามเพื่อสังคม โดยยื่นขอจดทะเบียนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 มีวัตถุประสงค์ของมูลนิธิคาวตอง ทองเนื้องามเพื่อสังคม และการดำเนินการในปัจจุบัน คือ การสงเคราะห์ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือต้องการเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย แต่ไม่มีความพร้อมทางเศรษฐกิจ ตามหลักการของมูลนิธิ (เดือนละหลายร้อยราย) สำหรับผู้ที่มีความพร้อมทางเศรษฐกิจ มูลนิธิได้รับความอนุเคราะห์จากโรงงานผู้ผลิตให้จำหน่ายในราคาพิเศษ ตามจำนวนที่กำหนดในแต่ละเดือน เพื่อมูลนิธิจะได้ใช้เป็นทุนสำหรับช่วยเหลือผู้ที่ไม่มีความพร้อมทาง เศรษฐกิจต่อไป เพื่อส่งเสริมการศึกษาสมุนไพร ซึ่งขณะนี้ได้มีการศึกษาร่วมกับแพทย์และนักวิจัย ทั้งในคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยของรัฐ และสถานพยาบาลบางแห่ง