[มือสอง] พระกริ่งหน้าตั๊กแตนหลวงปู่สรวงเสดออกที่เขมรปี25
557 สัปดาห์ ที่แล้ว
- กรุงเทพมหานคร - คนดู 610
รายละเอียด
พระกริ่งหน้าตั๊กแตนหลวงปู่สรวงเสดออกที่เขมรปี25
เปิดให้บูชา500บาท
สนใจติดต่อ ธนวัฒน์ โทร0870977567 โทร0856892342 โทร 0877029896
ให้เช่าหาบูชาองค์ละในราคา 500 บาท ไม่แพงครับไม่แพง
ค่าส่งอีกองค์ละ 50 บาทครับท่าน
ของแท้ราคาเบาๆ ทำเพื่อเผยแผ่คุณงามความดีของหลวงปู่ในราคาแบ่งกันใช้ครับ เงินที่ได้มาส่วนหนึ่งก็จะนำไปทำบุญให้ทาน ตามที่หลวงปู่บอกมา รับส่วนบุญกันทุกคนครับ สวัสดี
ต่อไปเป็นเรื่องเล่าของลุงบุญเลิศครับโดยผ่านไดเร็กเตอร์พี่อำพล เจน ก็ขอให้โชคดีทุกๆคนครับที่ช่วยกันเผยแผ่ประสพการ์หลวงปู่
ลูกศิษย์ของหลวงปู่สรวงคนนี้เป็นคนชอบเล่นการพนัน หลวงปู่สรวงท่านก็ไม่ขัดศรัทธาลูกศิษย์เช่นกัน เมื่อไปส่งหลวงปู่สรวงถึงบ้านของลูกศิษย์คนที่ชอบเล่นการพนันแล้ว ก็พากันเข้าไปนั่งพักในบ้าน
คุณลุงบุญเลิศเล่าต่อไปว่า บ้านของลูกศิษย์คนนี้หลังใหญ่มาก หน้าบ้านติดถนนเส้นหนึ่ง ส่วนหลังบ้านก็ไปจรดถนนอีกเส้นหนึ่ง เมื่อเข้าไปแล้วก็จัดการล็อกบ้านทันที เนื่องจากว่าบ้านหลังใหญ่มาก เมื่อเข้าด้านหน้าบ้านแล้วก็ต้องล็อกกุญแจหน้าบ้านเสียก่อน เพื่อจะเดินไปหลังบ้าน ทีนี้ด้วยความที่บ้านของลูกศิษย์คนนี้มีอาชีพในทางผิดกฎหมาย ก็คือการเล่นการพนันด้วยก็ต้องป้องกันให้เต็มที่ และแข็งแรงเสียหน่อย กุญแจที่ใช้ก็เป็นกุญแจที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความคงทนต่อการงัดแงะ หรือแม้แต่เลื่อยตัดเหล็กก็ไม่ละคายผิวนั่นแหละ จึงจะเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของลูกค้าว่างั้นเถอะ
ตัวเดียวไม่พอ จะให้มั่นใจยิ่งขึ้น มันต้องสองตัว
หมายความว่าหน้าบ้านล็อกด้วยกุญแจราคาแพง 2 ตัว ด้านหลังบ้านก็ต้อง 2 ตัวเช่นกัน นี่ยังไม่นับประตูเลื่อนซึ่งเป็นประตูเหล็กและมีล็อกในตัวอีกชั้นหนึ่งต่างหากด้วย เอาใจลูกค้าอย่างเต็มที่ว่างั้นเถอะ
ทีนี้เมื่อหลวงปู่สรวงและคุณลุงบุญเลิศเข้าไปนั่งพักในบ้านแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกขัง เพราะประตูได้ถูกล็อกป้องกันการเข้าออกอย่างแน่นหนา ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน คุณลุงบุญเลิศยังบอกอีกว่า ขณะนั้นทั้งหลวงปู่และคุณลุงบุญเลิศเอง ต่างก็ยังไม่รู้ว่า ตนเองได้ตกอยู่ในสภาพถูกขัง จนกระทั่ง
จนกระทั่งมีเสียงเสียงหนึ่งแว่วเข้ามากระทบโสตประสาทเข้า และก็เป็นเสียงที่คุ้นเคยกันดีในชนบท ที่สำคัญยังเป็นเสียงที่หลวงสรวงท่านชอบฟังมากเป็นพิเศษอีกด้วย
เสียงว่าวธนู
เมื่อได้ยินเสียงของว่าวธนู หลวงปู่สรวง ท่านก็ผุดลุกขึ้นฉุดแขนของคุณลุงบุญเลิศวิ่งออกไปดูว่าวธนูตัวต้นเสียงทันที
ลำพังการออกไปดูว่าวธนูนั้นไม่มีอะไรแปลกประหลาดหรอกครับ เพราะตามปกติธรรมดาของชาวอีสาน หากใครได้ยินเสียงว่าวธนูแล้วเสียงของว่าวธนูตัวนั้นถูกใจตนเองแล้วล่ะก็ มักจะออกจากเคหะสถานมามองหาต้นเสียงกันทุกคนไป
อีกอย่างหลวงปู่สรวงตามปกตินิสัยของท่านก็ชอบว่าวเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว เมื่อมาต่างถิ่นแล้วได้ยินได้ฟังในสิ่งที่ชอบก็ย่อมที่จะอยากเห็นเป็นธรรมดา
เมื่อวิ่งไปถึงประตูด้านหลังบ้าน คุณลุงบุญเลิศก็ชะงักเมื่อมองเห็นแม่กุญแจยี่ห้อดังตัวเขื่อง ล็อกประตูหลังบ้านเอาไว้ถึง 2 ตัว แต่หลวงปู่สรวงไม่หยุด หลวงปู่สรวง ท่านเอื้อมมือไปคว้าแม่กุญแจทั้งสองตัวที่ล็อกประตูนั้นออกมาได้อย่างไรไม่ทราบ มองไม่ทัน เห็นแต่ว่าท่านเอื้อมมือไปดึงออกมาเฉยๆไม่ได้มีลูกกุญแจไปไขแต่อย่างใด แล้วยังเลื่อนประตูเหล็กด้านนอกสุดอีกตัวออกง่ายดายโดยไม่ติดขัดอีกด้วย เมื่อประตูเปิดออกหมดแล้วหลวงปู่สรวงก็ดึงแขนคุณลุงบุญเลิศออกไปดูว่าวธนูตัวนั้น เป็นที่สนุกของหลวงปู่สรวงไป
เมื่อยืนดูและยืนฟังจนเป็นที่พอใจแล้ว หลวงปู่ก็จูงแขนคุณลุงบุญเลิศกลับเข้าบ้านดังเดิม โดยไม่ลืมล็อกบ้านเอาไว้เหมือนเดิมด้วยอีกต่างหาก
คุณลุงบุญเลิศท่านว่า ท่านเห็นอย่างนั้นแล้วอดนึกไม่ได้ว่า ตนเองและหลวงปู่เหมือนถูกเพื่อนคนนี้นำมากักมาขังไว้อย่างไรอย่างนั้น เพราะเท่าที่เห็นประตูถูกล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนาทั้งหน้าและหลังบ้าน ไม่ต่างอะไรกับคุก คิดได้ดังนั้นจึงได้เรียกเพื่อนเจ้าของบ้านออกมาถามไถ่เอาความจริง ว่าทำอย่างนี้ทำไม มันดูไม่ดี มันแลไม่เหมาะไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง คำตอบที่ได้นั้นคุณลุงบุญเลิศท่านบอกว่าไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง
เพื่อนตอบมาว่า เขากลัวหลวงปู่สรวงจะหนีกลับ กลัวว่าท่านจะไม่อยู่คอยในขณะที่ตัวแอบเข้าไปเล่นการพนันในบ้านของตัวเอง
แต่...!!!
จากการที่หลวงปู่ได้แสดงให้เห็นนั้นก็เป็นการบอกให้รู้เป็นนัยๆแล้วว่า หากหลวงปู่สรวงท่านต้องการจะไปจริงๆ ท่านไปได้ตลอดเวลาแม้จะถูกกักอยู่ก็ตาม
หลังจากตัดพ้อต่อว่าเพื่อนเจ้าของบ่อนแล้ว คราวนี้เจ้าของบ้านไม่กล้าปล่อยให้คุณลุงบุญเลิศนั่งพักอยู่กับหลวงปู่ตามลำพังอีก หลวงปู่สรวงท่านก็ยังนั่งยิ้มฟังเสียงว่าวธนูอยู่ในบ้านนั้นต่อ สักพักหลวงปู่ก็สรวงก็ชวนคุณลุงบุญเลิศไปต่อ บอกว่าไม่อยากอยู่ที่บ้านนี้แล้ว...
เรื่องยังไม่จบครับสำหรับกรณีที่ อ.อำนาจเจริญในคราวนี้ ยังมีกรณีต่อเนื่องอีก เอาไว้พรุ่งนี้ผมมาเล่าต่อ รับรองสนุกแน่ครับ