[มือสอง] เม็ดกระบกหลวงปู่สรวงวัดภูตะแบงปี19

539 สัปดาห์ ที่แล้ว - กรุงเทพมหานคร - คนดู 949

400 ฿

  • เม็ดกระบกหลวงปู่สรวงวัดภูตะแบงปี19 รูปที่ 1
  • เม็ดกระบกหลวงปู่สรวงวัดภูตะแบงปี19 รูปที่ 2
  • เม็ดกระบกหลวงปู่สรวงวัดภูตะแบงปี19 รูปที่ 3
รายละเอียด

เม็ดกระบกหลวงปู่สรวงวัดภูตะแบงปี19 หลังแบบปั๊มลูกตาเบ๊าะ วัดภูตะแบงกับแบบหลังฝังตะกรุด เปิดให้บูชาเพียง400บาท
สนใจติดต่อ  ธนวัฒน์ โทร0870977567 โทร0856892342 โทร 0877029896
ให้เช่าหาบูชาองค์ละในราคา 400 บาท ไม่แพงครับไม่แพง
ค่าส่งอีกองค์ละ 50 บาทครับท่าน
ของแท้ราคาเบาๆ ทำเพื่อเผยแผ่คุณงามความดีของหลวงปู่ในราคาแบ่งกันใช้ครับ เงินที่ได้มาส่วนหนึ่งก็จะนำไปทำบุญให้ทาน ตามที่หลวงปู่บอกมา รับส่วนบุญกันทุกคนครับ สวัสดี
ต่อไปเป็นเรื่องเล่าของลุงบุญเลิศครับโดยผ่านไดเร็กเตอร์พี่อำพล เจน ก็ขอให้โชคดีทุกๆคนครับที่ช่วยกันเผยแผ่ประสพการ์หลวงปู่ 
   
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ต้นเรื่องอยู่ที่ อำเภออำนาจเจริญ ปัจจุบันได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นจังหวัดแล้ว ด้วยเหตุผลของทางราชการไม่เกี่ยวกับหลวงปู่สรวงนะขะรับ

คุณลุงบุญเลิศท่านเล่าให้ฟังว่าเพื่อนของลุงบุญเลิศคนหนึ่งอาศัยอยู่ที่ อ.อำนาจเจริญได้มาปรารภกับคุณลุงบุญในทำนองอยากให้คุณลุงบุญเลิศ ช่วยนำพาหลวงปู่สรวงไปหาเขาที เพราะว่าตัวเขาอยู่ไกล ไม่ค่อยจะมีเวลาว่างมากนักในอันที่จะมากราบหลวงปู่สรวง และอีกอย่างหนึ่งก็คือตัวเขาเองป่วยอยากให้หลวงปู่ช่วยขจัดปัดเป่าให้ เพราะอาการที่เห็นและเป็นอยู่ ค่อนข้างจะหนักหนาพอสมควร ความเจ็บป่วยที่เพื่อนของคุณลุงบุญเลิศเป็นอยู่นั้นก็คือ โรคเบาหวาน

สมัยก่อนก็รักษากันไปตามมีตามเกิด หายบ้างทรุดบ้างก็แล้วแต่โชคชะตาและวาสนาของแต่ละคน ว่าจะได้เจอยาที่ถูกโฉลกกับตนหรือไม่

ก็ชาวบ้านสมัยโน้นเขาถนัดยาพื้นบ้านยาหม้อยาต้มมากกว่ายาจากโรงหมอ ซึ่งทั้งอยู่ไกล ทั้งแพง เสียทั้งเวลาทำมาหากิน เสียทั้งเวลาในการเดินทาง เป็นเหตุให้การไปพบแพทย์แผนปัจจุบันเป็นเรื่องที่ถูกเลือกเป็นหนทางสุดท้ายเสมอๆ บางครั้งก็ทันได้หาย บางครั้งก็ไม่ทัน อาการทรุดหนักจนเกินเยียวยาแล้วก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ

เพื่อนของคุณลุงบุญเลิศนี่ก็เช่นกัน รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองป่วย มิหนำซ้ำความป่วยที่เป็นอยู่ในขณะนั้น สมัยก่อนถือว่าป่วยหนัก ต้องหาหมอสมัยใหม่อย่างเดียวจึงจะทุเลาเบาบางลงไปหรือหากโชคดีตรวจพบเร็ว ก็มีสิทธิหายได้ในเวลาไม่นาน แต่เขาก็ไม่ยอมไปพบแพทย์

จนกระทั่งวันหนึ่งเริ่มมองอะไรต่างๆเห็นได้ไม่ชัดเจนอย่างที่ควรจะเป็น คือมีอาการตามัว ตาพร่าลาย ก็เกิดอาการกลัว กลัวว่าอาการป่วยเบาหวานที่เป็นอยู่จะลามขึ้นตา ซึ่งจะมีผลทำให้สูญเสียการมองเห็น หรือเรียกง่ายๆว่า ตาบอด

จะไปหาหมอก็ไม่กล้า กลัวหมอจะว่าจะด่าเอา และยังมีปัญหาหลายอย่างรอให้แก้ไขอยู่เยอะแยะไปหมด หาเวลาปลีกตัวยากก็เลยปล่อยอยู่อย่างนั้น

กระทั่งวันหนึ่งเกิดฝันเห็นหลวงปู่สรวงที่ตนนับถือมาหา ก็เกิดคิดถึงหลวงปู่ขึ้นมาทันที จึงได้ติดต่อไปหาคุณลุงบุญเลิศ บอกว่าหากวันไหนที่หลวงปู่ว่างไม่มีกิจนิมนต์ ให้คุณลุงบุญเลิศช่วยขับรถพาหลวงปู่สรวงไปหาตนที่ อ.อำนาจเจริญที เพราะมีเรื่องจะขอให้หลวงปู่สรวงช่วย

คุณลุงบุญเลิศเล่าต่อว่า ครั้งแรกลุงก็ไม่ได้รับปากหรอกว่าจะพาหลวงปู่สรวงไปหาเพื่อนคนนี้ เพราะลุงบุญเลิศเองก็รู้จริตของหลวงปู่สรวงดีว่า ถ้าหากท่านไม่ประสงค์ที่จะไปที่ไหนแล้วล่ะก็ทำไงก็ไม่มีทางนำพาท่านไปได้เด็ดขาด แต่ถ้าหากว่าหลวงปู่สรวงอยากไปที่ไหนสักแห่งแล้วล่ะก็ เดี๋ยวท่านก็ชี้ชวนให้ไปเอง ไม่มีใครสามารถที่จะไปบังคับท่านได้ ว่างั้นเถอะ

กระทั่งวันหนึ่งหลังจากเสร็จธุรกิจนิมนต์แล้ว กำลังขับรถจะกลับกระท่อมที่หลวงสรวงปู่ใช้พำนักเป็นประจำนั้น จู่ๆหลวงปู่สรวงก็ชี้ทางให้ลุงบุญเลิศเลี้ยวรถไปตามที่หลวงปู่สรวงคอยชี้บอก

คุณลุงบุญเลิศยังเล่าต่ออีกว่า ทุกครั้งที่หลวงปู่สรวงชี้บอกทางมักจะมีเรื่องแปลกๆรออยู่เสมอ เหมือนอย่างตอนที่หลวงปู่โยนเงินออกนอกรถที่เคยเล่าไว้นั่นแหละ ครั้งนั้นหลวงปู่สรวงก็เป็นผู้ชี้บอกทางให้รถเลี้ยวตลอดระยะทางที่จะไป ครั้งนี้จู่ๆหลวงปู่ก็ชี้บอกทางให้ไปคุณลุงบุญเลิศแกเข้าใจเอาเองว่า

น่าจะมีเรื่องเร้าใจรออยู่อีกเป็นแน่แท้

ขับรถไปตามทางที่หลวงปู่ชี้นำสักพักก็เริ่มแน่ใจแล้วว่า น่าจะมุ่งหน้าไปที่บ้านลูกศิษย์ของหลวงปู่ที่ อ.อำนาจเจริญอย่างแน่นอน จะแปลกใจอยู่หน่อยก็ตรงที่ไม่รู้ว่าหลวงปู่สรวงจะไปทำไม เพราะตัวของคุณลุงบุญเลิศเอง ท่านก็ไม่ได้บอกหลวงปู่ว่าลูกศิษย์ของหลวงปู่คนนี้ ได้เคยติดต่อมาให้คุณลุงบุญเลิศพาหลวงปู่ไปหาเขาบ้าง

จนกระทั่งรถไปถึงบ้านของลูกศิษย์คนนั้นแล้ว และหลวงปู่สรวงก็ได้ทำการรักษาอาการป่วยให้ลูกศิษย์คนนั้นทันที

 เรื่องรักษาคนป่วยทั้งๆที่ลุงยังไม่ได้บอกว่าเพื่อนป่วยหลวงปู่รู้ได้ยังไง มีต่อฉบับหน้าครับ