[มือสอง] Blackcurrant Stream NZ บำรุงสายตา สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์นานๆ และมีสารแอนโธไซยานินสูง ป้องกันและบรรเทาโรคต่างๆเช่น มะเร็ง เบาหวาน ไมเกรน หัวใจ

587 สัปดาห์ ที่แล้ว - กรุงเทพมหานคร - คนดู 411

1,800 ฿

  • Blackcurrant Stream NZ บำรุงสายตา สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์นานๆ และมีสารแอนโธไซยานินสูง ป้องกันและบรรเทาโรคต่างๆเช่น มะเร็ง เบาหวาน ไมเกรน หัวใจ รูปที่ 1
รายละเอียด

แบล็กเคอร์แร้นท์สกัด รหัสสินค้า : blackcurrant
ราคา : ราคา 1,800.00 ฿
ยี่ห้อ :
รุ่น :
รายละเอียด :



แบล็กเคอร์เร้นท์ (BLACKCURRANT) ผลไม้อุดมคุณค่า



แบล็กเคอร์เร้นท์ ช่วยป้องกัน... โรคทางสายตา โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไมเกรน โรคความจำเสื่อม โรคเครียด โรคพาร์กินสัน โรคเยื่อบุสมองอักเสบ โรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ ได้จริงหรือ...?







ANTHOCYANINS



NEW ZEWLAND BLACKCURRANT







มารู้จักผลไม้แบล็กเคอร์เร้นท์กันเถอะ



แบล็กเคอร์เร้นท์ช่วยบรรเทาและป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างไร







โรคทางสายตา



การรับประทานลูกแบล็กเคอร์เร้นท์ที่ให้แอนโธไซยานิน 50 มิลลิกรัมขึ้นไปเป็นระยะเวลาติดต่อกัน สามารถช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้า เนื่องจากใช้สายตานานๆได้และยังช่วยให้สายตาทำงานดีขึ้นในที่มืด



(Nakaishi & Colleagues from the University of Tsukuba, Tokyo, Japan)







แอนโธไซยานินมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาและชะลอความเสื่อมของเซลล์ดวงตาและจอประสาทตา ช่วยลดการเสี่ยงจากการเกิดโรคต้อกระจก ช่วยทำให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้นเลือดไปเลี้ยงเส้นเลือดฝอยที่ดวงดาให้แข็งแรง ไม่แตกง่าย ป้องกันไม่ให้ดวงตาและจอประสาทตาเสื่อม วิตามินเอในลูกแบล็กเคอร์เร้นท์สามารถป้องกันโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินเอได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคทางสายตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ต้อลม โรคน้ำตาแห้ง หรือเซลล์สายตาถูกทำลาย







โรคเบาหวาน



จากผลการศึกษาวิจัยจาก ดร.Muralee Nair นักเคมีจาก State University ในตะวันออกของ Lansing ในอเมริกาพบว่าเซลล์ตัลอ่อนของมนุษย์ที่มีสารแอนโธไซยานินอยู่จะช่วยเพิ่มระดับอินซูลินได้ถึง 50% สารแอนโธไซยานินและกลูโคควินิน (Glucoquinine) ในผลไม้กลุ่มเชอรี่และเบอรี่สีม่วงเช่น แบล็กเคอร์เร้นท์ช่วยเพิ่มระดับอินซูลินในเซลล์ตับอ่อนและสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้ อินซูลินเป็นโปรตีนที่ผลิตจากตับอ่อนช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด







โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง



โพแทสเซียมในแบล็กเคอร์เร้นท์ช่วยลดปริมาณคลอเรสเตอรอลในเลือดและลดระดับความดันโลหิตสูงซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคหัวใจ แอนโธไซยานิน วิตามิน และแร่ธาตุในแบล็กเคอร์เร้นท์ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดเลือดจับตัวเป็นก้อนและดักจับไขมันในเลือดที่จะเป็นอันตรายต่อเส้นเลือดแดง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้หลอดเลือด และลดโอกาสการเกิดสภาวะหลอดเลือดแข็งตัว หรือหลอดเลือดเปราะ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหลายชนิด ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงและอัมพาต



โรคความจำเสื่อม โรคพาร์กินสัน โรคเครียด โรคไมเกรน โรคนอนไม่หลับ



ไมเกรนมักเกิดจากการผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง แอนโธไซยานิน มีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดเล็กในสมองและเยื่อบุสมอง ทำให้สมองทำงานได้เต็มที่ไม่ขาดออกซิเจน เป็นผลให้เซลล์สมองได้รับการซ่อมแซม และยังช่วยบำรุงเซลล์ประสาทให้แข็งแรง ( Bormann J. et al. 1993) แอนโธไซยานินยังมีส่วนช่วยเพิ่มสารเคมีโดปามีนในสมองทำให้ความจำดีขึ้น ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากการถูกทำลาย (Ghosh D & colleagues from The Horticulture & Food Research Institute of New Zealand) ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง กระฉับกระเฉง กระปรี้กระเปร่า เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเป็นหรือกลัวว่าจะเป็นโรคความจำเสื่อม โรคพาร์กินสัน คนที่มีภาวะเรื่องของสภาพจิตใจหรือประสาทไม่ปกติ โรคไมเกรน โรคเครียด โรคนอนไม่หลับ







โรคระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ



แบล็กเคอร์เร้นท์ผลไม้มหัศจรรย์ช่วยต้านการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและนิ่วในไต (Kidney Stone) จากงานวิจัยล่าสุดพบว่ายังช่วยป้องกันโรคเหงือกและแผลในช่องท้องได้อีกด้วย







บำรุงผิวพรรณและลดริ้วรอยหมองคล้ำรอบดวงตา



แบล็กเคอร์เร้นท์มีวิตามิน C สูงกว่าส้มถึง 4 เท่า ถ้าเทียบในปริมาณที่เท่ากัน วิตามิน C มีคุณสมบัติช่วยบำรุงรักษาสุขภาพ สร้างภูมิคุ้มกันโรคหวัด ช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิวหนัง กระดูก เนื้อเยื่อ และฟันให้แข็งแรง ทำให้ผิวพรรณสดใส เมื่อทานติดต่อเป็นเวลานานจะช่วยบำรุงผิวและลดรอยหมองคล้ำรอบดวงตาได้อีกด้วย







โรคมะเร็ง
สีม่วงในแบล็กเคอรร์เร้นท์ มีประโยชน์อย่างไร...



แบล็กเคอร์เร้นท์เป็นผลไม้ที่มีลักษณะค่อนข้างกลม มักจะขึ้นเป็นช่อและมีสีม่วงแดงเข้ม แบล็กเคอร์เร้นท์จะมีส่วยประกอบของสารชื่อแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) และโฟลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นแอนตี้ออกซิเด้นท์เข้มข้น ช่วยพัฒนากระบวนการป้องกันสารพิษในร่างกายและยับยั้งอนุมูลอิสระที่มีปฏิกิริยาต่อต้านร่างกาย ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง จากผลการวิจัยและมีหลักฐานพิสูจน์โดย Giusti และเพื่อนร่วมงานพบว่าสารแอนโธไซยานินในแบล็กเคอร์เร้นท์สามารถยับยั้งการเกิดเนื้อร้ายและลดการเจริญเติบโตของเนื้อร้ายได้ถึง 60-70%โดยเฉพาะมะเร็งในลำไส้ (http://www.emaxhealth.com/100/15093.html) จากผลการวิจัยโดย Mercian Bio Technology Institue พบว่า ไซโตไคนส์ TNF-a (IL-lb) cytokines ชนิดที่ต่อต้านการอักเสบพบปริมาณมากในแบล็กเคอร์เร้นท์ สามารถยับยั้งการเกิดเนื้อร้ายเช่นมะเร็งได้และใช้ประกอบการรักษาในผู้เป็นโรคมะเร็ง







ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบล็กเคอร์เรนท์ ชนิดแคปซูล ตราสตรีมเอนแซด
ผลิตจากนิวซีแลนด์แบล็กเคอร์เรนท์ ผลิตและนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์



ส่วนประกอบที่สำคัญ
ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วยแบล็กเคอร์เรนท์สกัด 240 มก. ให้แอนโธไซยานิน 60 มก.



วิธีรับประทาน
ผู้ใหญ่ - รับประทาน 1 แคปชูล ต่อวัน



ควรกินอาหารหลากหลาย ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษาโรค



คำเตือน





เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

อย่าบริโภคเมื่อฝาขวดชำรุด


การเก็บรักษา
เก็บไว้ในที่แห้งอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส และปิดฝาให้สนิท



เลขสารบบอาหาร 10-3-00150-1-0002



1 ขวด ราคา 1,950 บาท



2 ขวด ราคา 3,700 บาท ราคาขวดละ 1,850 บาท



3 ขวด ราคา 4,800 บาท ราคาขวดละ 1,600 บาท









e-mail Saokyo@gmail.com







แบล็กเคอร์เรนท์(Ribes nigrum)เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสักษณะค่อนข้างกลม มักจะขึ้นเป็นช่อและมีสีม่วงแดงเข้มจนเกือบดำ ปลูกขึ้นมากในแถบยุโรปและเอเชียตอนเหนือ พูดง่ายๆในประเทศ
เมืองหนาวอย่างเช่น ประเทศนิวซีแลนด์ อเมริกา
โปแลนด์ ประเทศไทยก็พยายามปลูกแบล็กเคอร์เรนท์แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จก็เพราะบ้านเรา
อากาศร้อนชื้นน่ะสิ ต้นแบล็กเคอร์เรนท์มักขึ้นเป็นพุ่ม
เล็กๆสูงประมาณ 1-2 เมตรลักษณะใบไม้จะดูคล้าย
ใบองุ่น บางคนเข้าใจผิดคิดว่าแบล็กเคอร์แรนท์คือ
องุ่นดำ ความเป็นจริงไม่ใช่นะ



ความแตกต่างของต้นแบล็กเคอร์แรนท์และต้นองุ่น
อยู่ที่องุ่นจะขึ้นเป็นต้นไม้เลื้อย แต่แบล็กเคอร์แรนท์
ขึ้นเป็นพุ่ม ต้นแบล็กเคอร์แรนท์จะดูคล้ายคลึงกับ
ต้นเรดเคอรแเรนท์มากๆจะแตกต่างกันตรงที่ว่ากิ่ง
และใบไม้ของต้นแบล็กเคอร์เรนท์จะมีกลิ่นหอมกว่า
ต้นเรดเคอร์แรนท์มาก



ผลไม้ก็ใหญ่แค่ 1 เซนติเมตรเอง เปลือกจะเงามัน
มีเมล็ดข้างใน รสชาติจะมีทั้งหวานอมขม และเปรี้ยว



ในประเทศญี่ปุ่นจะนำเข้าแบล็กเคอร์เรนท์จากประเทศ
นิวซีแลนด์เป็นมูลค่าถึง 3.6 ล้านเหรียญดอลลาร์
สำหรับใช้ทำอาหารเสริม ขนม แยม และเยลลี่



ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบล็กเคอร์เรนท์ ชนิดแคปซูล ตราสตรีมเอนแซด
ผลิตจากนิวซีแลนด์แบล็กเคอร์เรนท์ ผลิตและนำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์



ส่วนประกอบที่สำคัญ
ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วยแบล็กเคอร์เรนท์สกัด 240 มก. ให้แอนโธไซยานิน 60 มก.



วิธีรับประทาน
ผู้ใหญ่ - รับประทาน 1 แคปชูล ต่อวัน



ควรกินอาหารหลากหลาย ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษาโรค



คำเตือน





เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

อย่าบริโภคเมื่อฝาขวดชำรุด


การเก็บรักษา
เก็บไว้ในที่แห้งอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส และปิดฝาให้สนิท



เลขสารบบอาหาร 10-3-00150-1-0002







โรคทางสายตา



ทุกวันนี้คอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน การใช้สายตานาน ๆ เพ่งมองจอคอมพิวเตอร์
จอโทรทัศน์ มองแป้นพิมพ์ หรือแม้แต่การอ่านเอกสารนาน ๆ นำมาซึ่งผลกระทบต่อสุขภาพดวงตาทั้งสิ้น

...จากการเฝ้าสังเกตการณ์ของ ผศ.นพ.วิชัย ประสาทฤทธา ประจำภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยว่า มีคนไทยมาติดต่อขอรักษาโรคตาที่มีสาเหตุจากคอมพิวเตอร์ เพิ่มมากขึ้น
ประมาณ 10-20% ทั้งที่เมื่อก่อนเราไม่เคยมีผู้ป่วยมาติดต่อขอทำการรักษาเลยและในการศึกษาของ
ผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศ พบว่าคอมพิวเตอร์จะทำให้คนป่วยได้ใน 4 ลักษณะอาการ ใหญ่ ๆ
สายตาเพลีย-โรคผิวหนัง-เป็นลมชัก-โรคจากรังสีคอมพิวเตอร์ ฟังอาการป่วยจากคอมพิวเตอร์
หลายคนเป็นงง ทำไมคอมพิวเตอร์ก่อให้เกิดอาการไม่น่าเชื่อได้ขนาดนั้น

นพ.วิชัย อธิบายขยายความว่า” สายตาเพลีย.หรือ อาการเมื่อยล้าดวงตา เกิดจากการจ้องหน้าจอ
คอมพิวเตอร์อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เล่นเกม หรืออะไรก็แล้วแต่ การที่คนเราเพ่งจ้อง
มีสมาธิทำอะไรก็แล้วแต่... โดยธรรมชาติคนเราจะกะพริบตาน้อยลงปรกติคนเราจะกะพริบตา 7-8
ครั้ง ต่อนาที แต่เมื่อคนเรามีสมาธิ สนใจเพ่งดู ไม่ว่าจะขับรถ ดูหนัง อ่านหนังสือ จ้องอะไรนาน ๆ การกะพริบตาจะน้อยลงเหลือแค่ 3-4 ครั้งต่อนาที ตาคนเราซึ่งต้องเปียกอยู่ตลอดเวลาเปลือกตาที่
กะพริบจะทำหน้าที่เหมือนที่ปัดน้ำฝนรถยนต์
- กะพริบลงมาเพื่อกวาดเช็ดทำความสะอาดดวงตา และนำน้ำตามาเคลือบ ให้ตาเปียกอยู่เสมอ
เมื่อเราจ้องคอมพิวเตอร์
- กะพริบตาน้อยลง การทำความสะอาดน้อยลง ดวงตาจะแห้งทำให้รู้สึกแสบตา ตาอักเสบ การเพ่งจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ แล้วเกิดอาการปวดตา แสบตา สายตาสั้น น้ำตาไหล ง่วงนอน...
นี่เป็นอาการที่เรียกว่า เพลียสายตา และการที่สายตาเพลียนาน ๆ อาจทำให้จอประสาทตาเสื่อม
ก่อนวัยหรือมีโอกาสเป็นโรคทางสายตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ต้อลม โรคน้ำตาแห้งหรือ เซลล์สายตา
ถูกทำลายได้”



จากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ การใช้สายตาเพ่งอะไรนาน ๆ
รวมทั้งการขาดสารอาหารบางชนิดล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคทางสายตาได้ ซึ่งจากการวิจัยพบว่าผัก
และผลไม้ในธรรมชาติช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อกระจก และจอประสาทตาเสื่อม ได้แก่
สารแอนติออกซิแดนท์ (แอนโธไซนานิน โฟลีฟีนอล วิตามินซี อี เบตาแคโรทีน แคโรทีนอยด์
ลูทีน ซีแซนทีน) สังกะสี และไบโอฟลาโวนอยด์

ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง ลดความเสี่ยงการเกิดจอประสาทตาเสื่อมได้ถึง 43%
แอนโธไซยานินช่วยกรองแสงที่จะทำลายจอประสาทตา ไบโอฟลาโวนอยด์ พบในผลไม้
ที่มีสีมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ไบโอฟลาโวนอยด์ ชนิดที่เรียกว่าสารแอนโธไซยานิน
พบมากในผลไม้ที่มีสีม่วงเข้ม เช่น แบล็คเคอร์เร้นท์ บิลเบอร์รี่ องุ่นแดง และแครนเบอร์รี่ ช่วยป้องกัน
อนุมูลอิสระให้กับเลนส์ตาและสร้างความแข็งแรงให้กับสารคอลลาเจน ซึ่งเป็นโครงสร้างของบริเวณ
กระจกตา (cornea) และเส้นเลือดฝอยในตา และแอนโธไซยานินยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
ดีขึ้น เลือดไปเลี้ยงเส้นเลือดฝอยที่ดวงตาได้ดีขึ้น ทำให้หลอดเลือดไม่แตกง่าย การบริโภคผักผลไม้
ที่มีสารแอนติออกซิแดนท์ สารแคโรทีนอยด์ และสารแอนโธไซยานินสูง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อ
โรคทางสายตาเช่น จอประสาทตาเสื่อม หรือโรคต้อกระจก ในผู้ที่ปัจจัยเสี่ยงข้างต้นและผู้สูงอายุ



แต่..โดยสภาวะการดำเนินชีวิตที่ค่อนข้างรีบเร่งในแต่ละวันทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะทาน
อาหารให้ครบ 5 หมู่หรือบริโภคผักผลไม้ได้ตามปริมาณเพียงพอ และวิธีการปรุงอาหารโดยผ่านความร้อนนั้นทำให้เกิดการ สูญสลายไป ของวิตามิน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่สกัดมาจากธรรมชาติจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรมองหาเนื่องจาก ช่วยให้เรา ประหยัดเวลาและทานอาหารได้คุณค่าครบถ้วน แต่เราก็ควรมองหาอะไรที่เป็นธรรมชาติจริง ๆ นะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้มีสารเคมีตกค้างในร่างกายหลังจากที่เรารับประทานไปแล้ว เพราะแทนที่เราจะได้ประโยชน์จากการรับประทาน อาจมีโทษตามมาแทนที่



จากการศึกษาและวิจัยโดย The University of Modena, Italy โดยเปรียบเทียบค่า Antioxidants
ในกลุ่มเบอรี่ด้วยกันพบว่า แบล็กเคอร์เร้นท์สกัดเข้มข้นแสดงค่า Antioxidants สูงสุดรวมทั้งยังมี
แอนโธไซยานิน และโฟลีฟีนอลมากกว่ากลุ่มเบอรี่ด้วยกันอีกด้วย ซึ่งแบล็กเคอร์เร้นท์ที่ปลูกในประเทศ นิวซีแลนด์ยังมีปริมาณแอนโธไซยานิน, แคโรทีนอยด์และโฟลีฟีนอลสูงกว่าประเทศอื่นถึง 3 เท่า
เนื่องจากแบล็กเคอร์เร้นท์เติบโตได้ดีในฤดูที่ร้อนแห้งและฤดูหนาวที่หนาวเย็นซึ่งเกาะใต้ในประเทศ
นิวซีแลนด์ มีสภาพอากาศดังกล่าวจึงเหมาะต่อการปลูกแบล็กเคอร์เร้นท์มาก



วันนี้จึงอยากจะแนะนำผลไม้จากธรรมชาติให้รู้จักกันค่ะ....แบล็คเคอร์เร้นท์ ไบโอแอคทีฟ แคปซูล ตราสตรีมเอนแซด จากประเทศนิวซีแลนด์ เข้มข้นไปด้วยแบล็คเคอร์เร้นท์สกัดถึง 240 มิลลิกรัม ให้แอนโธไซยานินเข้มข้น ถึง 60 มิลลิกรัม (1 แคปซูลเทียบเท่า แบล็คเคอร์เร้นท์สด ๆ ถึง 20 ลูกค่ะ) เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา บำรุงสมอง และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ เหมาะสำหรับคนที่ใช้สายตานานๆ เป็นต้อที่กำลังรักษาและหลังรักษา ช่วยให้สุขภาพดี แล้วยังบำรุงผิวพรรณดีด้วยนะคะ เพียงวันละ 1 แคปซูล