[ใหม่] วิธีสะสมเงิน 1 บาท ให้เป็น 1 ล้านบาท แบบดับเบิ้ล

สะสมเงิน 1 บาท ให้เป็น 1 ล้านบาท     

     สมมุติว่า คุณมีเงิน 1 บาท ถ้าให้สะสมแบบ Double (ดับเบิ้ล) จะต้องสะสมกี่ครั้ง(เดือน)  จึงจะได้เงิน จำนวน 1,000,000 บาท

ครั้งที่1      สะสมจาก 1 เป็น  2           การเก็บออมเงินให้ได้ 1.0 ล้านบาท เป็นเรื่องยาก

ครั้งที่2                    2          4           แต่ท่านเชื่อไหมว่าการสะสมเงินแบบ Double (ดับเบิ้ล) นี้

ครั้งที่3                   4           8           ใช้จำนวนครั้งเพียง 20 ครั้งเท่านั้น ก็ได้เงิน 1.0 ล้านบาทแล้ว

ครั้งที่4                  8           16          ปัญหาอยู่ที่ว่า มีวิธีการอย่างไร จึงจะสะสมเงินได้ครบ 20 ครั้ง

ครั้งที่5                 16         32          ในทางปฏิบัติ มีอยู่ 2 วิธี

ครั้งที่6                 32         64          วิธีแรก เป็นแค่หลักการ ปฏิบัติจริงยากมาก และไม่แนะนำ คือ

ครั้งที่7                 64       128          การเล่น ".........."  เพราะตามสถิติไม่มีใครเล่น "..........."  ชนะ

ครั้งที่8              128       256          ติดต่อกันถึง 20 ครั้ง

            ฯลฯ                    

     วิธีที่สอง เป็นวิธีที่ทุกคนสามารถทำได้ ใช้เงินลงทุนไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบแทนที่จะได้รับ คือ "ธุรกิจเครือข่าย"

ปัจจุบัน ธุรกิจเครือข่าย มีการพัฒนาไปมาก ใช้ระบบออนไลน์เข้ามาประยุกต์ในการทำงาน บางธุรกิจใช้ออนไลน์ 100 % ก็มี จึงเหมาะสำหรับคนที่พูดไม่เก่ง แนะนำคนไม่เป็น ก็สามารถทำธุรกิจเครือข่ายได้   ลักษณะการสร้างองค์กรของธุรกิจเครือข่ายก็คือการสะสมเงินแบบดับเบิ้ลวิธีหนึ่ง ซึ่งเมื่อประยุกต์เอาระบบออนไลน์ และอินเตอร์เน็ทเข้ามาใช้ด้วยแล้ว การสะสมเงิน 1 ล้านบาท ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จึงถือเป็นยุคทองของธุรกิจเครือข่ายอย่างแท้จริง เพราะลงทุนน้อย แต่มีโอกาสได้เงินแสนเงินล้าน เพียงนั่งทำงานผ่านอินเตอร์เน็ทอยู่ที่บ้าน (กรณีนี้ คิดจากฐานเงินเริ่มต้นเพียง 1 บาท ใช้เวลาเพียง 20 เดือน ก็ได้เงิน 1 ล้านบาทแล้ว) ความสำคัญอยู่ที่ท่านมีโอกาสได้พบกับธุรกิจเครือข่ายที่ดีเพียงพอหรือไม่ และเมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ได้ตัดสินใจลงทุนไปหรือไม่

     ธุรกิจเครือข่ายที่ดี ควรมีลักษณะอย่างไร ?

จากประสบการณ์จริงในการทำธุรกิจเครือข่าย ยังมีผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครือข่ายไม่มากนัก เป็นเพราะเหตุใด มีองค์ประกอบสำคัญ ๆอะไรบ้างในการพิจารณา

• ผลิตภัณฑ์ต้องมีความโดดเด่น มีคุณภาพสูง ไร้คู่แข่ง เป็นสินค้าประเภทที่ใช้แล้วหมดไปและอยู่ในแนวโน้มกระแสโลก เช่น อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม สินค้าประเภทบริการต่างๆ เป็นต้น ธุรกิจเครือข่ายที่ไม่มีสินค้า มีความเสี่ยงสูง (อาจเข้าข่ายเป็นมันนี่เกมส์ หรือแชร์ลูกโซ่)
• บริษัทต้องมีความมั่นคงสูง พิจารณาจากผลการดำเนินงาน และประวัติของผู้บริหาร ไม่ใหม่เกินไป จากสถิติ ธุรกิจจำนวนมากมีแนวโน้มปิดตัวเองในช่วง 1 - 2 ปีแรก และก็ต้องไม่เก่าจนเกินไป เพราะช่วงเวลาโมเมนตั้มความเจริญเติบโตของธุรกิจนั้นผ่านพ้นไปแล้ว (อย่ายึดถือคติที่ว่า "มาช้าดีกว่าไม่มา" กรณีนี้ถ้ามาช้า ตกรถแน่ครับ)
• แผนการจ่ายผลตอบแทนสูง และทำได้ไม่ยากเกินไป ศึกษาความเป็นไปได้ของแผนโดยละเอียด อย่าด่วนสรุป แผนการตลาดต้องมีการสร้างองค์กรทั้งเชิงลึก และเชิงกว้าง (ถ้าแผนการตลาดอยู่ในวิสัยที่เป็นไปได้ เดินหน้าเต็มที่ได้เลย)
• มีความเป็นสากล มิใช่จำกัดการทำธุรกิจเฉพาะในประเทศ มีระบบออนไลน์ในการติดต่อ ประสานงาน และระบบการติดตามผล (โลกไร้พรมแดน+ระบบการค้าเสรี = ยุคทองของธุรกิจเครือข่ายมาถึงแล้ว)

องค์ประกอบต่าง ๆที่กล่าวมา ใช้เป็นหลักในการพิจารณาได้ในเบื้องต้นเท่านั้น  มิอาจยึดถือ

เป็นหลักประกันว่า จะทำให้ประสบความสำเร็จได้  ขอย้อนไปดูข้อความสำคัญประโยคหนึ่ง

ที่ว่า "ลักษณะการสร้างองค์กรของธุรกิจเครือข่ายก็คือการสะสมเงินแบบดับเบิ้ลวิธีหนึ่ง"

แท้จริงแล้ว ความสำเร็จของการทำธุรกิจเครือข่ายอยู่ที่ การสร้างองค์กรให้มีลักษณะโยงใย

เชื่อมต่อกัน ยิ่งแน่นหนามากเท่าไรความสำเร็จก็มากขึ้นเท่านั้น ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่ง

ที่เราทราบกันดีก็คือบรรดาผลประโยชน์ตอบแทนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นคอมมิชชั่น ส่วนลด

โบนัส แมทชิ่ง ทีมอ่อนทีมแข็ง ฯลฯจะถูกจัดสรรไปให้กับคนที่แนะนำเก่งๆ เท่านั้น และนี่เอง

คือเหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่ซึ่งไม่ถนัดในการแนะนำหรือแนะนำไม่เก่ง ต้องเดินออกจาก

ธุรกิจเครือข่ายไปคนแล้วคนเล่า ทำไมจึงไม่มีใครคิดที่จะนำผลประโยชน์ตอบแทนเหล่านั้น

มากระจายให้สมาชิกกลุ่มใหญ่ที่แนะนำไม่เก่ง ได้มีส่วนร่วมในการสร้างองค์กรของเขาบ้าง

เพราะในคนกลุ่มใหญ่ยังมีพลังแฝงอีกมากมายที่ยังไม่ถูกนำออกมาใช้  ลองมาพิจารณา

ธุรกิจตัวนี้ดู ว่าพอจะเป็นต้นแบบในการกระจายรายได้ให้สมาชิกได้บ้างหรือไม่

 
 คลิก  >>>  http://www.vnawat.webgetlead.com