[ใหม่] Organic Herbal Detox สมุนไพรดีท็อกซ์ ล้างสารพิษตกค้างในลำไส้ และร่างกาย ล้างไขมันตกค้างข้างลำไส้

602 สัปดาห์ ที่แล้ว - เชียงใหม่ - คนดู 309
  • Organic Herbal Detox สมุนไพรดีท็อกซ์ ล้างสารพิษตกค้างในลำไส้ และร่างกาย ล้างไขมันตกค้างข้างลำไส้ รูปที่ 1
รายละเอียด

Organic Herbal Detox สมุนไพรดีท็อกซ์ ล้างสารพิษตกค้างในลำไส้ และร่างกาย ล้างไขมันตกค้างข้างลำไส้ ปรับสมดุล ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างปลอดภัย 2-5 กิโลต่อเดือน ทั้งยังช่วยลดคลอเรสเตอรอล แก้ท้องผูก บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ลดอาการปวดประจำเดือน ทำให้ผิวพรรณสดใส

(Organic Herbal 100%) **เห็นผลเร็ว และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ**

++สูตร Organic V-care++
อุดมไปด้วยสมุนไพรธรรมชาติแท้ๆ 100% ทั้ง 9 ชนิด (ดอกคำฝอย ส้มป่อยพริกไทดำ ย่านาง ชาเขียว มะรุม กระเจี๊ยบแดง ขมิ้นชัน ชุมเห็ดเทศ)จากแหล่งสมุนไพรภาคเหนือไม่มีสารเคมีปนเปื้อน

สรรพคุณ : เป็นสมุนไพรดีท็อกซ์ ล้างไขมันตกค้างข้างลำไส้ล้างสารพิษในร่างกาย ลดคลอเรสเตอรอล ลดความดัน ลดเบาหวาน แก้ท้องผูกบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ขยายหลอดเลือด ปรับธาตุ ขับระดู ทำให้ผิวพรรณสวยงาม

วิธีบริโภค : รับประทานครั้งละ 2-5 เม็ดแคปซูล ก่อนนอน

** อาการขับถ่ายออกมาช่วงแรกอุจจาระจะมีสีคล้ำหรือดำ มีกลิ่นแรง บางคนออกมาเหนียวเพราะดึงไขมันหรือสิ่งตกค้างข้างลำไส้ แต่บางคนสิ่งตกค้างไม่มากจะออกมาไม่เหนียวมาก การขับถ่ายจะคล่องสะดวกไม่มีอาการปวดท้อง บิดมวนท้อง ประมาณหนึ่งอาทิตย์จะเห็นอาการดีขึ้นค่อนข้างชัดเจน ผิวพรรณ ผิวหน้าจะดูสดใส ภายในหนึ่งเดือนกล้ามเนื้อจะกระชับอย่างเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะหน้าท้องต้นขา ต้นแขน **


ขนาดบรรจุ :
=>  30 แคปซูล ราคา 350 บาทราคาพิเศษ 300บาท
=>  60 แคปซูล ราคา 680 บาทราคาพิเศษ 580บาท


สนใจสั่งซื้อได้ที่: 081-196-6562 | หรือ E-mail : pookays@gmail.com |www.facebook.com/Organic.Vcare
**สั่งซื้อตอนนี้พร้อมจัดส่ง EMS ฟรี!! ทั่วไทยจ้า^^

:-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:-
ทำไมต้องดีท๊อกซ์?..

การล้างพิษ หรือการดีท๊อกซ์(Detox) คือขบวนการที่ร่างกายขับสารพิษออกจากร่างกายเพราะถ้าเรามีสารพิษสะสมในร่างกายเมื่อใดก็จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆได้มากดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือเราต้องนำสารพิษนั้นๆออกจากร่างกายและทำให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานในการที่ให้สารพิษเข้าสู่ร่างกายน้อยที่สุด

สารพิษมีอยู่รอบกายเรา ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศ ทางน้ำในอาหารต่างๆที่เราบริโภคเข้าไปสู่ร่างกายและยังรวมทั้งความเครียดที่ทำให้เราเกิดอาการต่างขึ้นๆ อย่างเช่นโรคภูมิแพ้ โรคผิวหนัง อาการเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อและร่างกายอาการท้องผูก ความหยาบกร้านของผิวหนัง อาการนอนไม่หลับ เป็นต้น

อาการที่แสดงให้เห็นว่า เราควรทำดีท๊อกซ์ คือ
1. ร่างกายอ่อนเพลียไม่สดชื่นบ่อยครั้งหรือตลอดเวลา.....
2. ผิวพรรณดูหมองคล้ำ ซูบซีดไม่มีชีวิตชีวา เหมือนคนไม่สบาย....
3. ร่างกายเหนื่อยล้าต่อเนื่องหรือเรื้อรัง อ่อนเปลี้ยเพลียแรง ไม่มีเรี่ยวแรง เหนื่อยง่าย เบื่อหน่ายกับรอบข้างหรือการทำงาน4. มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้เรื้อรัง....
5. ตับไม่แข็งแรง...
6. คนที่ทานยาต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ....
6. ดื่มกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมาก หรือเป็นประจำ....
7. คนที่สูบบุหรี่เป็นประจำ....
8. คนอ้วน หรือมีน้ำหนักผิดปกติ...
9. คนที่ชอบอาหารเกรียม ไหม้ ปิ้ง ย่างเป็นประจำ

การทำดีท๊อกซ์ไม่ใช่เพียงการทำความสะอาด อวัยวะ เซลล์หรือเนื้อเยื่อต่างๆเท่านั้น แต่การทำดีท๊อกซ์ช่วยให้ร่างกาย อวัยวะ เซลล์เนื้อเยื่อต่างๆกลับมาทำหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การใช้สมุนไพร Organic V-care ของสมุนไพรบ้านร่มบุญในการล้างพิษ ทำงานด้วยกระบวนการหลักๆเพียงการรับประทาน เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่างแท้จริงด้วยการขจัดสารพิษก่อนที่สารพิษจะเข้ามาทำร้ายร่างกายพร้อมทั้งช่วยป้ิงกันเซลล์ ไม่ให้ถูกทำลายมากขึ้นสุดท้ายช่วยในการฟื้อนฟูเซลล์ที่ถูกทำลายให้กลับมาแข็งแรงมากขึ้นสมุนไพรทั้ง 9 ชนิดใน Organic V-care จะมีทั้งสมุนไพรที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ หรือทำลายสารอนุมูลอิสระไม่ให้เข้ามาทำร้ายร่างกายของเรามากขึ้นทั้งยังช่วยป้องกันตับจากสารพิษที่ตกค้างจากหน้าที่ที่เป็นตัวกรองสารพิษรวมทั้งการกำจัดสารพิษที่เกิดจากมลภาวะต่างๆที่เกิดจากกระบวนการเมตตาโบลิซึมจากโปรตีน ให้ไปกำจัดออกที่ไตได้ดียิ่งขึ้น

การป้องกันเซลล์ ไม่ให้ถูกทำลาย ไม่ว่าจะได้จากขมิ้นชัน ย่านาง กิเกียชาเขียว กระเจี๊ยบ ... ที่เป็นตัวช่วยในการป้องกันตับอักเสบเรื้อรังพร้องทั้งยังช่วยต้านทาน หรือป้องกันไม่ให้ตับอักเสบได้เป็นอย่างดีโดยไม่ทำให้มีสารพิษตกค้างในตับ หรือร่างกายมากขึ้น โครเมี่ยมจากกิเกียช่วยในการทำงานของอินซูลินทนทานขึ้น ทำให้การเผาผลาญคาร์โบไฮเดตดีขึ้นซึ่งทำให้ป้องกันการเป็นโรคเบาหวาน และการเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้นรวมทั้งยังช่วยในการลดระดับคลอเลสเตอรอลให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสมยิ่งขึ้นด้วย

ส่วนการฟื้นฟูเซลล์ให้แข็งแรงเหมือนเดิมหรือดีขึ้น สมุนไพรต่างๆมีส่วนช่วยในการผลิตพลังงาน ที่ใช้ในการกำจัดสารพิษและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดียิ่งขึ้นพร้อมทั้งเพิ่มความต้านทานของเซลล์ได้ดียิ่งขึ้น สมุนไพร Organic V-care ช่วยทำให้จำนวนเม็ดเลือดแดงอยู่ในระดับปกติยังช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทสร้างภูมิต้านทานหรือภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเป็นอย่างดี
:-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:-

พอดีได้อ่านบทความน่าสนใจมาก เลยนำมาฝากสำหรับคนรักสุขภาพด้วยกันค่ะ
คุณหมอพรทิพย์ เขียนไว้ว่า...
เวลาผ่าศพ จะเจออุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ
บางศพมีน้ำหนักอุจจาระถึง 10 กิโล...แล้วเป็นเพราะอะไร ???

“อุจจาระตกค้าง ” เนื่องมาจาก...
1. เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
2. ทานอาหารที่มีกากใยน้อย
3. มีพยาธิ หรือเชื้อรา ทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ
4. ระบบดูดซึมเสีย เพราะน้ำมันพืชเคลือบ ทำให้น้ำที่ดื่มเข้าไปไม่หมุนเวียน (รวมไปถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน เช่น ของทอด ของผัดเป็นต้น)
5. ไม่ถ่ายอุจจาระเวลา 05.00 - 07.00 เช้า

หากถ่ายอุจจาระหลังเวลา 7 โมงเช้า ลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบน (เหมือนน้ำ กลับขึ้นไปปั่นใหม่ เวลาถ่ายออก มักเป็นเม็ดแบบลูกกระสุน)คนทำดีท็อกซ์ลำไส้จะรู้ดี เพราะเวลาถ่าย จะถ่ายไม่หมด...แต่ไม่รู้ตัวที่ปลายลำไส้ จะมีประสาทปลายทวาร เมื่อมีอุจจาระที่เหลวพอ มาจ่อปลายทวารประสาทจะส่งสัญญานบอกสมองให้ปวดอุจจาระ

หลัง 7 โมงเช้า ลำไส้จะทำงานไม่เป็นปกติ บีบอุจจาระให้ขาดช่วง
เวลาถ่ายจนรู้สึกว่าหมด แล้วเราก็หยุด แต่ความจริง อุจจาระท้ายขบวนยังไม่ออก แต่มันถูกดันกลับขึ้นไป ไม่มาจ่อปลายทวาร ทำให้เราไม่ปวดอุจจาระเราก็นึกว่าหมดแล้ว อุจจาระที่ค้างไว้นี้ ก็จะเกาะที่ผนังลำไส้พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่า มันก็แซงหน้าไปก่อนแต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้ก็เกาะติดแน่น (ให้นึกภาพว่า ลำใส้เราเป็นเหมือนคลื่น ที่มีส่วนนูนขึ้นและยุบตัวลงอุจจาระเก่า จะไปนอนกองตรงแอ่งที่มันยุบตัวและอุจจาระที่ตีขึ้นไปด้านบนนั้น จะก่อให้เกิดก๊าซไข่เน่าในลำไส้ทำให้ผายลมเหม็น และซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้หน้าตาหมองคล้ำและเป็นสิว-ฝ้าได้)

ฉะนั้นทุกวันที่ถ่าย มันก็ถ่ายเฉพาะอุจจาระที่เหลวพอ ส่วนที่เหลือ
ก็เกาะไปเรื่อยๆ อุจจาระที่ตกค้าง จะไปทับเส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะและกดทับกระดูกหลัง ทำให้เกิดอาการมากมาย เช่น ท้องอืด ปวดหลัง ปวดขาปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่ และสะบัก เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้าไมเกรน และอื่น ๆ

:-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:-
ท้องผูกส่งผลกับร่างกายเราอย่างไร

การขับถ่ายของแต่ละคนมีความแตกต่างกันแต่การขับถ่ายเป็นประจำได้ทุกวันนั้นเป็นสิ่งที่ดีเพราะเป็นการช่วยในการขับพิษออกจากร่างกายตามะธรรมชาติที่ได้สร้างสรรค์ให้เรามา

แต่ถ้าของเสียที่ตกค้างอยู่ในร่างกายเราหรือลำไส้ยิ่งนานวันมากขึ้นก็ยิ่งบูดเน่ามากขึ้นเรื่อยๆและก็ทำให้เกิดสารพิษขึ้นในร่างกายของเราและส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆของร่างกายได้ เช่น

- ผิวพรรณหมองคล้ำ
เกิดจากสารพิษที่มาจากเศษอาหารบูดเน่าที่ตกค้างในลำไส้ไม่ว่าจะเกิดก๊าซแอมโมเนีย แอนโดรมีแทน ไนโตรเจน กำมะถันเพราะเมื่อสารเหล่านี้ถูกดูดซึมพร้อมน้ำในลำไส้จะส่งผลให้เกิดการเสื่อมของอวัยวะต่างๆเร็วยิ่งขึ้นยังส่งผลให้ผิวพรรณหมองคล้ำหยาบกร้าน และแก่ก่อนไว้ได้อีกด้วย

- เสี่ยงกับมะเร็งลำไส้
ท้องผูกทำให้ลำไส้มีสิ่งตกค้าง และไม่สะอาดเมื่อตกค้างนานเข้าจะมีจุลินทรีย์บางชนิดที่ส่งผลให้ลำไส้เป็นแผลซึ่งเป็นผลทำให้เกิดมะเร็ง หรือเนื้องอกได้เช่นกัน

- ผลกระทบต่อตับ
ตับทำหน้าขับสารพิษที่ตกค้างออกจากเลือดและสารพิษที่เกิดจากอุจจาระตกค้างก็ต้องให้ตับช่วยทำหน้าที่ในการขับออกเช่นเดียวกัน และเมื่อท้องผูกเป็นประจำ ตับก็ต้องทำหน้ามากยิ่งขึ้นไปอีกและทำให้ตับเสื่อมได้ เมื่อตับเสื่อมลงการขับสารพิษที่จำเป็นของร่างกายก็ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรเป็๋นจึงทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆเกิดขึ้นได้ง่าย

- ผลกระทบต่อระบบเลือดและหัวใจ
สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ ความดันสูง หลอดเลือดในสมองมีปัญหาการเบ่งถ่ายจะทำให้โรคหัวกำเริบ เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตและยังเป็นการเร่งให้อาการ หรือระบบต่างๆของร่างกายทรุดลงไปได้อีก

- เสี่ยงกับการเป็นริดสีดวงทวาร
เมื่อเบ่งแรง อุจจาระที่แข็งและแห้งจะเสียดสีทำให้ทวารหนักฉีกปริจนเลือดออกและเมื่อเบ่งมากๆเข้าการกดทับก็จะทำให้หลอดเลืิอดดำขอดจนเป็นริดสีดวงและเมื่อขับถ่ายก็จะทำให้มีเลือดสดๆไหลออกมา และปวดที่ทวารได้

(ที่มา : สมุนไพรบ้านร่มบุญ)
:-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:- :-:--:-:-
ขับถ่ายวันละ 3 ครั้ง ลดเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

ดร.ทอม อู๋ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติจากสหรัฐอเมริกา บอกว่าการถ่ายอุจจาระวันละครั้งไม่เพียงพอ เพราะของเสียยังค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่อีก 3 วัน เนื่องจากโครงสร้างของลำไส้ใหญ่ มีทั้งลำไส้ใหญ่ส่วนขึ้นลำไส้ใหญ่ส่วนขวาง ลำไส้ใหญ่ส่วนลง และลำไส้ตรง รวม 4 ขยักถ้าถ่ายอุจจาระเพียงวันละครั้งจะทำให้อุจจาระในลำไส้ใหญ่ที่เหลือ 3 ขยักสะสมอยู่ในร่างกาย สารพิษจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายทำให้มีอัตราการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงขึ้น และเซลล์ต่อมน้ำเหลืองซึ่งเป็นเสมือนทหารประจำการ 2 ใน 3 ของระบบย่อยอาหาร ก็มีโอกาสเป็นพิษทำให้สมรรถภาพภูมิคุ้มกันลดลง

ทางที่ดีควรถ่ายอุจจาระวันละ 3 ครั้ง และดื่มน้ำผักผลไม้วันละ 4-6 แก้วและอาจเพิ่มสลัดผักสด 2 มื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์เต็มที่และช่วยให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวดี เพื่อขับถ่ายวันละ 3 ครั้งอย่างสะดวกแต่ก็มีข้อพึงระวังสำหรับผู้ที่เพิ่งผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะ ลำไส้ควรปรึกษานักโภชนาการ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนวธรรมชาติบำบัดก่อน

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 135 มีนาคม 2555 โดย ธาราทิพย์)