[ใหม่] น้ำสมุนไพรสกัดชีวภาพเพื่อการบริโภค ได้รับ มผช. 481/2547 (มาตรฐานการผลิตภัณฑ์ชุมชน)
รายละเอียด
น้ำสมุนไพรสกัดชีวภาพบีวี คัดเลือกจากจุลินทรีย์กว่า 500 สายพันธ์ เพื่อให้ได้สายพันธ์ที่ดี และ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ นำมาหมักกับสมุนไพรที่ผ่านการคัดสรรค์ในด้านคุณประโยชน์และความปลอดภัยในการบริโภค
ส่วนประกอบสำคัญ
จุลินทรีย์โปรไบโอติกที่ได้จากการคัดสรรสายพันธ์ที่พบว่ามีประสิทธิภาพสูง ในการส่งเสริมสุขภาพโดยมีการวิจัยที่ผ่านการศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจังรองรับ ทั้งแง่ของความปลอดภัยและสมุนไพรที่มีความปลอดภัยและอุดมด้วย สาระสำคัญที่มีสรรพคุณในการบำบัด ส่งเสริมสุขภาพ แบบองค์รวมซึ่งผ่านการคัดเลือกจากแหล่งธรรมชาติ และเกษตรอินทรีย์ เช่น ใบพลูคาว ลูกยอ สมอไทย มะขามป้อม เป็นต้น
ประโยชน์ของการดื่มน้ำสมุนไพรสกัดชีวภาพ
1. ช่วยป้องกัน ต่อต้านโรคมะเร็ง เบาหวาน โรคเกาต์ ไมเกรน โรคในระบบทางเดินอาหาร สะเก็ดเงิน ความดันโลหิตสูง และภูมิแพ้ให้ดีขึ้น
2. จุลินทรีย์เสริมนี้สามารถเจริญและยึดเกาะผนังลำไส้เพื่อไม่ให้เชื้อก่อโรคเจริญได้ ช่วยปรับสมดุลเชื้อจุลินทรีย์ประจำในร่างกาย
ซึ่งมีรายงานถึงการใช้เพื่อป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ ทำให้ภูมิต้านทานโรคดีขึ้น
3. ช่วยทำลายเชื้อก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร
4. ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือด
5. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ปรับร่างกายให้สมดุลย์
6. ปรับสภาพร่างกายให้ผิวพรรณสดใส
7. ช่วยปรับการทำงานของร่างกายที่ไม่สมดุล กลับมาทำงานให้เป็นปกติ
8. เป็นการ Detox ให้ร่างกาย โดยไม่ต้องสวนกาแฟ แก้ไขปัญหาเรื่องท้องผูก
9. ปรับฮอร์โมนผู้หญิงวัยทอง
ข้อสังเกต
หากท่านมีความผิดปกติหรือบกพร่องในส่วนใดของร่างกายเมื่อดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรสกัดชีวภาพแล้วอาจจะเกิดสัญญาณบ่งบอกถึงการเกิดการบำบัดรักษาในการล้างสารพิษที่ตกค้างและสะสมออกจากเซลล์ในส่วนต่างๆ
ได้เช่น
- อุจจาระเป็นสีดำ เน่าเหม็น เป็นเมือก (ทำความสะอาดลำไส้)
- อาเจียน (ทำความสะอาดกระเพาะ)
- ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น และมีน้ำมูก เสมหะ(ทำความสะอาดปอด)
- ปวดเมื่อยทั่วตัว โดยเฉพาะในเอ็น ข้อ กระดูก (ร่างกายเริ่มขับของเสียทิ้ง) เป็นต้น
อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการขับสารพิษจากร่างกายซึ่งจะพบในช่วง 5-7 วันแรกเท่านั้นเมื่อดื่ม
น้ำมากๆจะทำให้ร่างกายกำจัดพิษได้ง่ายแล้วอาการดังกล่าวจะหายไปในที่สุด
น้ำสมุนไพรสกัดชีวภาพ ไม่ใช่ยา แต่เป็นน้ำสมุนไพรที่เข้าไปปรับการทำงานของร่างกายให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เป็นวิธีธรรมชาติช่วยธรรมชาติ จึงไม่มีโทษแต่อย่างใด
การรับประทาน
1. สำหรับผู้ที่ไม่เป็นโรคกระเพาะอาหาร ให้รับประทานตอนท้องว่าง เช้า 15 cc. และ เย็น 15 cc.
2. สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร ควรให้รับประทานหลังอาหารทันที 15 cc. และ เย็น 15 cc.
3. สำหรับผู้ป่วย หนักควรบริโภคแต่น้อยในช่วงเริ่มต้นรับประทานเช้า - เย็น 5 cc.( 1 ช้อนชา) และเมื่อร่างกายปรับตัวได้แล้วค่อย ๆ เพิ่มขนาดจนถึง 15 cc ได้
ควรรับประทานติดต่อกับอย่างสม่ำเสมอ ติดต่อกันอย่างน้อย 2 เดือน ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อย่างชัดเจน
ควรรับประทานติดต่อกันสม่ำเสมอ เมื่อเปิดขวดแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็น ไม่ควรถูกแสง