[ใหม่] น้ำมันเนียงสลัน พรายนางผมหอม พราย59ตน

576 สัปดาห์ ที่แล้ว - เชียงราย - คนดู 121
รายละเอียด

น้ำมันเนียงสลัน พรายนางผมหอม พราย59ตน

 

น้ำมันเนียงสลันและตะกรุดเนียงสลัน จงรัก นางผมหอม พราย59ตน สร้างตามตำราหลวงปู่เตียร์ สุดยอดแห่งน้ำมันและตะกรุด เสน่ห์ ที่รวมมนต์พระเวทย์ และมวลสารอาถรรพณ์ ศักดิ์สิทธิ์  สุดยอดวิชาเมตตามหาเสน่ห์แห่งเขมรโบราณ 1000ปี อัดแน่นแรงที่สุดจนสื่อจิตสัมผัสได้แม้นคนธรรมดา ยิ่งผู้ที่บรรลุวิปัสสนากรรมฐานชั้นสูงหรือผู้ที่วัดพลังทดสอบได้ยิ่งแล้ว เมื่อสัมผัสจะเหมือนดังคลื่นแม่เหล็กดึงดูด ยังต้องร้องอุทานออกมา นี้แหละคืออำนาจจิตอันแก่กล้าที่ได้บำเพ็ญเพียรมาเกือบชั่วชีวิต มวลสารหลัก ผงตะใบ ตะขอคชกูช หรือตะขอควาญช้าง คือ คฑาแห่งอำนาจ อิทธิฤทธิ์ด้านสยบสะกดให้แน่นิ่ง ตะขอ งอ โค้ง หมายถึงการ คล้อง เกี่ยว เหนี่ยว ดีทาง เมตตา เสน่ห์ โภคทรัพย์ เคล็ดด้านการเหนี่ยวรั้งขอเมตตา ขอความรัก เรียกคู่ครอง เป็นหนึ่งในแปดเครื่องรางมงคลของพราหมณ์ แม้แต่เทพของพราหมณ์บางปางยังใช้ตะขอคชกุชนี้เป็นศาสตราวุธ ตะขอช้างเก่าแก่อายุเกือบ 200ปี ที่ตกทอดมาจากหลวงปู่เตียร์ ผ่านพิธีเซ่นไหว้ครูปะกำ ประจุอาคมไสยเวทย์จากครูเฒ่า เขมรมานับครั้งไม่ถ้วน เครื่องรางที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาโดยใครจะรู้ว่านี่แหละคือของศักดิ์สิทธ์ แม้จะมีขนาดเล็ก แต่เปี่ยมด้วยพุทธานุภาพสูงส่ง พลังแรงทุกครั้งที่ได้สัมผัส ตะขออันเล็กเพียงอันเดียวนี่แหละที่ใช้บังคับสยบสัตว์ใหญ่อย่างช้างให้ เชื่องได้ แม้นช้างจะพยศ หรือตกมัน ก็ยังต้องหยุดด้วยอำนาจแห่งศาสตราชิ้นนี้ นี่คืออำนาจสะกด ตรึงให้อยู่ เมื่อนำมาตะใบหรือบดเป็นผงทำมวลสารผสมจะเพิ่มพลังอำนาจพิเศษถือเป็นที่สุด แห่งมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ความขลังของตะขอช้าง เชื่อกันว่าหากนำตะขอนี้ไปสับบนหัวคนทำธรรมดา ด้วยอำนาจฤทธิ์ ของตะขอช้าง คชกูช นี้ถึงกับทำให้คนวิปริตหรือเป็นบ้าได้ ท่านนำมาบดผสมผสานกับว่านและมวลสารอาถรรพณ์อันศักดิ์สิทธิ์ ผงมหาเสน่ห์ที่ท่านลบขึ้นตามตำราหลวงปู่เตียร์ น้ำมันโขมดพรายนางผมหอม

( นางผมหอมเป็นชื่อเรียกผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อมีชีวิตผมของนางหอมมากเป็นที่ ครั้งไคร้ ของชายหนุ่มทั้งหลาย แม้แต่หนุ่มตาบอดแค่ได้กลิ่นยั่งลุ่มหลงในตัวนาง )

หลวงปู่จันได้ทำพิธีพลีน้ำมันมาเมื่อนางเสียชีวิตเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนชึ่ง นางก็ยินยอมและเต็มใจ น้ำมันนี้เป็นที่ต้องการกันมากสำหรับหนุ่มๆนักรัก เล่ากันว่าใครที่ได้ไปทุกรายต่างสมหวังดังใจ ผู้ที่จะบูชาต้องเป็นคนที่เจ้าชู้ รู้วิธีหลบหลีกสับรางเก่งหากไม่เจ้าชู้อย่าเอาไปจะต้องกลุ้มใจปวดหัวแน่ๆ ผงมหาภูติเมืองธม 7กองฟอน 59ตนหรือเรียกว่าผงพรายจุติ กำหนดจิตเลือกเฉพาะตนที่มีฤทธิ์และไปจุติเป็นเทวดา หัวเชื้อมวลสารหลักที่ขาดไม่ได้ใช้เป็นสื่อแร่งพลังงานความศักดิ์สิทธิ์ให้ แรงและเห็นผลเร็ว โดยท่านได้อัญเชิญเทวดาทั้งหมดมาร่วมสร้างบารมีโดยไม่ได้บังคับ การปลุกเสกท่านจะนำวัตถุมงคลทั้งหมดนำไปทำพิธีนั่งปลุกเสกกลางเชิงตะกอนโดย กำหนดจิตท่องมนต์คาถาจวบจนกระทั่งมีงูตะขาบอสรพิษทั้งหลายวิ่งคลานเข้าหากอง วัตถุมงคลเป็นอันจบพิธีโดยท่านกล่าวว่าสัตว์พวกนี้ล้วนมีพิษที่รายกาจผู้คน ต่างกลัวกันยังต้องยอมสยบต่ออำนาจเครื่องรางชุดนี้ถือว่าพิธีกรรมนี้สมบูรณ์ แล้ว น้ำมันเนียงสลันและตะกรุดเนียงสลัน ชุดนี้จึงเป็นที่สุดแห่งเครื่องราง ที่ดีทั้งนอกและใน มวลสารดีพิธีเยี่ยม

 

ผู้ใดมีน้ำมันเนียงสลันหรือตะกรุดเนียงสลันนี้บูชาหรือทาติดตัวจะเป็นที่รัก ใคร่ เมตตา มหาเสน่ห์ต่อผู้ที่ได้ประสบพบเห็นทั้งเพศตรงข้ามเพศเดียวกันและบุคคลที่3 ผู้หลักผู้ใหญ่เจ้านาย ทั้งมนุษย์และเทพเทวา แม้นไม่สวยไม่หล่อก็จะไม่ไร้คู่ จะเป็นที่ต้องตาต้องใจอยากพบปะปราศรัย ทักทายพูดคุย แม้นใจแข็งดังหินก็จักอ่อนปานนุ่มได้ เมื่อได้ประสบพบเห็น หากแม้นโกรธเคืองกันมานานก็จะใจอ่อนหายโกรธ จากศัตรูก็จักกลายมาเป็นมิตร ผู้ที่จะบูชาต้องเป็นคนที่เจ้าชู้ รู้วิธีหลบหลีกสับรางเก่งๆ จะดียิ่งนัก

 

 

หลวงปู่จัน ขันติโก อายุ 82ปี

พระ อาจารย์ผู้เฒ่า แห่ง กำปงธม กำพูชา

อาคมแก่กล้าเชี่ยวชาญวิชาขอมเขมรโบราณทุกแขนง วัยเด็กร่ำเรียนวิชาอาคมกับโยมพ่อ และหลวงปู่ เตียร์ ปู่แท้ๆของท่าน ตั้งแต่อายุ 13ปี (หลวงปู่เตียร์เป็นพระที่มีอาคมสูงขนาดว่านกบินอยู่ท่านเพ่งจิตนกบินมาหาให้ จับแบบเชื่อง ช้างตกมันใช้ฝ่ามือลูบช้างยอมสยบนั่งหมอบ)หลวงปู่จันได้รับสืบทอดวิชาอาคม ต่างๆจนบรรลุวิชาไสยเวทย์ชั้นสูง เขมรโบราณ เมื่ออายุ 15ปี ครั้งแรกทดลองทำพิธีเสกหุ่น กุมารทองเฮี้ยนกระพริบตาได้  เสกตะกรุดลองปืนแตกคามือ สำเร็จมนต์มหาเสน่ห์ท่องหัวลมหนุ่มสาวรักกันไม่พราก ขนาดทะเลาะกันยังหยุดหันหน้าจับมือกัน  เมื่ออายุ19ปี ได้บวชรับให้หลวงปู่เตียร์ ท่านได้สอนวิปัสสนากรรมฐานชั้นสูง ฝึกจิต จนบรรลุ แก่กล้า เมื่อหลวงปู่เตียร์ท่านมรณภาพ หลวงปู่จันจึงได้ออกธุดงค์ต่อไปทั่ว ป่ากัมพูชา เพื่อฝึกจิตให้แก่กล้าอยู่เสมอ ผ่าดงระเบิดที่ฝังไว้สมัยสงครามก็มาก ปาฏิหาริย์ ท่านไม่เคยได้รับอันตรายสักครั้ง หลวงปู่จันท่านอยู่ไม่เป็นที่ บางทีท่านก็ปลูกกระต๊อบ เล็กๆอยู่กลางป่าชายแดนเขมร อยู่ป่าช้าก็หลายปี พักอยู่ใต้ดินคนเดียวโดยขุดหลุมอยู่ก็มี บางครั้งก็อยู่ในถ้ำกลางป่าหลายปี ท่านปฏิบัติอย่างนี้ตลอดเรื่อยมาท่านบอกว่าสงบดีไม่มีใครมารบกวนท่านได้ นานที่ท่านก็มาอาศัย อยู่วัดใกล้เขตชายแดน แถว สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว จันทบุรี ฝั่งไทยบ้าง ฝั่งกัมพูชาบ้าง แล้วแต่ ท่านไปๆมาๆยากสุดที่จะคาดกาลได้ เป็นที่นับถือต่อผู้ได้เจอจำนวนมากทั้งฆราวาสและพระสงฆ์ ส่วนมากจะเรียกท่านว่าพ่อครูเฒ่าบ้างผู้วิเศษบ้าง หลวงปู่จันท่านได้สร้างของขลังหลายอย่างด้วยกันส่วนมากเป็นตะกรุดเช่นตะกรุด หนังงู ตะกรุดหนังปลากระเบน ตะกรุดเมตตา ตะกรุดโชคลาภค้าขาย ตะกรุดคงกระพันมหาอุด น้ำมันเมตตาตาต่างๆสีผึ้ง ผ้ายันต์ ผงดวงตาวิเศษ โดยเฉพาะพระขุนแผน กุมารทอง วัตถุมงคล 2อย่างนี้ท่านดังมากๆต่อไปจะหายากยิ่ง ท่านจะเชียวชาญจำพวกเครื่องรางหรือวัตถุมงคลจำพวกผงพรายต่างๆเป็นพิเศษ ท่านสร้างเครื่องรางไปแจกให้ทหารกัมพูชา โดนยิงไม่เข้า เหยียบกับระเบิด ตัวกระเด็นสอยละลิ่วแต่ไม่เป็นไรฮือฮากันมาก ผู้คนที่ได้พบต่างประจักษ์ ท่านเพียบพร้อมด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ของจริงทดสอบลองได้ทุกครั้ง